วันนี้ (21 ก.พ.) ที่โรงแรมนภาลัย อ.เมือง จ.อุดรธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์กรณีหลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการมาตรการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินตามที่องค์กรระหว่างประเทศกำหนดมาตรฐานพัฒนาและส่งเสริมนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันการฟอกเงิน และการก่อการร้าย (FATF) ที่ตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1989 ที่ประเทศฝรั่งเศส มีแนวคิดให้รัฐบาลไทยออกกฎหมายเกี่ยวกับการยึดทรัพย์ และการฟอกเงิน และมีฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ว่า ขอบอกว่าคนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ไม่ได้อ่านตำราเพราะเรื่องนี้ไทยเคยมีสนธิสัญญากับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในการแก้ไขกฎหมายการก่อการร้ายในปี 2526 และต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกกฎหมายนี้และกำหนดความผิดฐานก่อการร้ายหรือการฟอกเงินเป็นมูลฐานที่ 8 ที่ ป.ป.ง.สามารถยึดทรัพย์ได้อยู่แล้ว
“คนที่พูดเรื่องนี้มันหลับตาถาม หลับตาคิด หลับตาพูด และตอนนี้ที่กำลังเร่งกฎหมายกันอยู่ ผมเห็นแล้วว่ามันมากเกินไป มันออกกฎหมายชนิดที่ยึดธนาคารได้เหนืออำนาจศาล เราออกกฎหมายให้คนไทยใช้ เราก็ต้องคำนึงถึงประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยด้วย ยืนยันว่าความผิดในเรื่องการก่อการร้าย ฟอกเงิน กฎหมายไทยสามารถเอาผิดได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาสอนให้พวกฝ่ายค้านไปทำหน้าที่ของตัวเอง เราก็จะทำงานด้วยความรัดกุม ไม่ใช่เร่งรัด” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว