"อภิสิทธิ์"บี้รัฐเร่งออกระเบียบฟอกเงิน หวังช่วยป้องกันการก่อการร้าย เป็นที่ยอมรับในระดับของสากล เชื่อทำไทยหลุดบัญชีดำเอฟเอทีเอฟ.
วันนัี้ ( 19 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่องค์กรคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงินของฝรั่งเศส (เอฟเอทีเอฟ)ขึ้นบัญชีประเทศไทย เรื่องการฟอกเงินว่า
องค์กรดังกล่าว ห่วงใยอยู่ที่ปัญหาการฟอกเงินเกี่ยวกับการก่อการร้าย ซึ่งได้ระบุว่าในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลที่แล้วได้มีการออกแผนปฎิบัติการ ว่า หัวใจสำคัญคือการเร่งออกกฏหมายกฏระเบียบต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่ตนคิดว่าจำป็นอย่างมากก็คือ รัฐบาลและรัฐสภา ต้องเร่งออกกฏหมาย เพื่อให้มีมาตราฐานเกี่ยวกับการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เป็นที่ยอมรับในระดับของสากล ตนคิดว่าในระดับนโยบายจะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรที่เข้ามา ดูแลในเรื่องเหล่านี้
เมื่อรัฐบาลที่แล้วทางรัฐมนตรีที่รับผิดชอบก็ทำงานอย่างใกล้ชิด เพราะทราบว่าจะมีความคาดหวังในหลายเรื่องที่ต้องการผลักดันให้มีความคืบหน้า ซึ่งบางครั้งต้องให้ฝ่ายนโยบายไปอธิบายถึงข้อจำกัดบางอย่าง เช่นขบวนการการตรากฏหมายซึ่งต้องใช้เวลา เพราะถ้าไม่มีคนระดับสูงที่เข้าไปติดตามก็จะเป็นปัญหาได้ ทั้งเนื้อหาสาระรัฐบาลต้องเร่งทำและในที่สุดแล้วเราก็จะได้ไม่อยู่ในบัญชีนี้
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาในอดีตก็เคยมีการเตือน แต่ไม่เคยได้มีการดำเนินการอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงก็เห็นชัดแล้วว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เห็นข้อจำกัดของกระบวนการ เขาก็ยอมรับว่าในระดับของการเมืองมีความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่เขาก็พูดถึงว่าความล่าช้าที่จะเดินตามแผนปฏิบัติการถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ และตนคิดว่าเหตุการณ์ในช่วงหลังที่เกิดเกี่ยวกับเหตุระเบิด ข่าวเรื่องการก่อการร้าย หรือการก่อวินาศกรรม ตรงนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งแก้และให้ความมั่นใจ และสิ่งสำคัญคือการเร่งนำเสนอกฎหมายเพื่อให้กฎหมายเราเป็นไปตามมาตรฐานที่คาดหวัง ส่วนที่จะต้องมีการเพิ่มฐานความผิดของปปง.ด้วยหรือไม่นั้น ตนคิดว่า มันมีข้อเสนอแนะหรือเป็นมาตราฐาน ถือว่าเป็นที่เกี่ยวข้องกับกฏระเบียบต่างๆที่ต้องเร่งผลักดัน
เมื่อถามว่าการตรวจตราเข้าออกประเทศไทย และการตรวจสารตั้งต้นต่าง ๆ ควรเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถือเป็นส่วนสำคัญแต่ในส่วนนี้จะเป็นเรื่องการฟอกเงินหรือเส้นทางการเงินที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรม เขาอยากเห็นเรามีมาตรฐานในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าจะมองเข้าไปถึงเหตุการณ์การก่อเหตุร้ายทางภาคใต้ของเราด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องมองในภาพรวม มากกว่าว่ากติกาของการดูแลการทำธุรกรรมการเงินก็ดี การไหลเข้าไหลออกของเส้นทางการเงิน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้ มากกว่าในภาพรวม