ยันรัฐไม่ได้นอนใจหลังถูกเอฟเอทีขึ้นบัญชีดำ

ยันรัฐไม่ได้นอนใจหลังถูกเอฟเอทีขึ้นบัญชีดำ


"พร้อมพงศ์" ยันรบ.ไม่ได้นอนใจ หลังไทยถูกเอฟเอทีเอฟขึ้นบัญชีดำประเทศเฝ้าระวังธุรกรรมการเงิน เผยเตรียมนำเรื่องถามความเห็นส.ส. 21 ก.พ.ก่อนออกพ.ร.บ.คุมการฟอกเงิน-ก่อการร้าย

         
วันที่ 19 ก.พ.55  เวลา 10.10 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ประเทศไทยถูกเอฟเอทีเอฟ องค์กรระหว่างประเทศขึ้นบัญชีดำเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ต้องเฝ้าระวังในการทำธุรกรรมทางการเงิน ว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาและดูข้อกฎหมายต่างๆ แล้ว โดยในการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 21 ก.พ.นั้นจะมีการหารือในที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อฟังความเห็นของส.ส.ก่อนพิจารณาออกพ.ร.บ.ว่าด้วยการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันการฟอกเงินเข้าสู่สภาฯ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับนานาชาติ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน


จวกฝ่ายค้านเลิกทำตัวเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาอุทกภัยของรัฐ

         
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ทัวร์ลุ่มน้ำระหว่างวันที่ 13 - 17 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ว่า วันนี้ประชาชนชื่นชมและแสดงความเห็นผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค จดหมาย และโทรศัพท์มาที่พรรคเพื่อไทยจำนวนมาก การที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติเพื่อเร่งทำงานแข่งกับเวลานั้นก็เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในปี 2555 แต่การแก้ปัญหาน้ำท่วมนั้นเมื่อรัฐบาลเดินหน้าทุกภาคส่วนก็ต้องร่วมมือกันด้วย วันนี้ภาคประชาชนชื่นชม ภาคเอกชนให้ความร่วมมือ ภาครัฐก็ให้ความร่วมมือ ขาดเพียงฝ่ายค้านเท่านั้น ถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ควรที่จะเลิกทำตัวเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาอุทกภัยของรัฐบาล
 
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า 2 ปีกว่าๆ ที่นายอภิสิทธิ์เคยเป็นผู้นำฝ่ายบริหารนั้น ย่อมรู้ดีว่าโครงการของรัฐบาลนั้น ไม่ว่าจะดีอย่างไร แต่หากขาดเม็ดเงินแล้วก็ไม่สามารถที่จะทำงานได้ วันนี้นายอภิสิทธิ์ทำเป็นไม่เข้าใจ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยพ.ร.ก. 2 ฉบับ ดังนั้นวันนี้ถ้าคิดผิดก็ยังคิดใหม่ได้โดยการถอนพ.ร.ก. 2 ฉบับดังกล่าวออกจากศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะที่เป็นอดีตผู้นำฝ่ายบริหารนั้นน่าจะมีสำนึก เลิกเตะถ่วง เพราะจะเป็นประโยชน์กับประชาชน อยากให้นายอภิสิทธิ์ได้พิสูจน์ภาวะผู้นำ ไม่ใช่เล่นลิ้นเล่นโวหารรายวัน เพราะคนที่รับเคราะห์คือประชาชน 
 
"อยากฝากถึงนายอภิสิทธิ์ด้วยว่า กรณีที่เดินทางไปพบนางออง ซาน ซู จี นักการเมืองที่เป็นแบบอย่างของประเทศพม่านั้น ก็น่าจะนำสิ่งที่ดีๆ กลับมาด้วย โดยการให้ความร่วมมือกับรัฐบาล เพราะนางออง ซาน ซู จี นั้นแม้จะถูกกักบริเวณมานานแต่ไม่เคยโจมตีรัฐบาลของตัวเอง ให้ความร่วมมือกับรัฐบานในทุกด้าน ถือเป็นนักการเมืองสตรีที่เป็นแบบอย่าง ดังนั้นอยากให้นายอภิสิทธิ์เมื่อไปพบก็ควรนำสิ่งดี ๆ โดยเปลี่ยนวิธีการทำงานเสียใหม่ ในฐานะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ให้เป็นที่ประทับใจของคนไทยทั้งชาติด้วย"  โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว


“พร้อมพงศ์”เผยมอบทีมกม.ยื่นฟ้อง 3 ส.ส.ปชป.หมิ่น“ยิ่งลักษณ์”สัปดาห์หน้า

         
นายพร้อมพงศ์ แถลงถึงกรณีที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังขยายผลการเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ตนและทีมกฎหมายของพรรคได้ดูเทปรายการที่ดำเนินรายการโดยนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์แล้วเห็นว่า ทั้ง 3 คนไร้จิตสำนึก เอาเรื่องส่วนตัวมาให้ร้ายผู้อื่นอย่างไร้เหตุผล ไม่ให้เกียรติกับผู้นำประเทศ เล่นเกมการเมืองน้ำเน่า ไม่เห็นจะเป็นประโยชน์กับประชาชน แทนที่จะไปตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ การกระทำของทั้ง 3 คนนั้นน่าจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 ดังนั้นจะมอบหลักฐานและเอกสารรวมถึงคลิปทั้งหมดให้กับฝ่ายกฎหมายเพื่อดำเนินการฟ้องร้องให้เป็นคดีตัวอย่างในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้มีการใช้ความเป็นนักการเมืองเพื่อหวังเล่นเกมการเมืองด้วยการทำลายนายกรัฐมนตรี 
 
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายชวนนท์กล่าวหานายกรัฐมนตรีว่า น่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่กรณีเดินทางไปพบนักธุรกิจและภาคเอกชนที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นนั้น น่าจะเป็นการใส่ร้าย เพราะการเดินทางไปของนายกรัฐมนตรีนั้นไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ และนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปไหนและไปพบใครนั้นก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีดำเนินการทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ของประเทศเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์อย่าพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายอย่างไม่ละอายใจ เพราะถือเป็นการจินตนาการที่น่าจะชั่วร้ายมาก ทัวร์ลุ่มน้ำของนายกรัฐมนตรีตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรีจากครอบครัวไปลงพื้นที่โดยทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งต่างจากนายอภิสิทธิ์ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่ไปที่ไหนก็ไม่เคยค้างคืน ต้องรีบเดินทางกลับจนมีเสียงซุบซิบว่า น่าจะมีคำสั่งจากใครก็ไม่รู้ให้รีบเดินทางกลับใช่หรือไม่ ดังนั้นวุฒิภาวะตรงนี้มันต่างกัน ก่อนที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ควรจะส่องกระจกดูอดีตผู้นำของตัวเองด้วยว่า พฤติกรรมที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไร


วอนฝ่ายค้านเลิกสุมไฟการเมืองกรณีแก้รธน.


นายพร้อมพงศ์  แถลงถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 21 ก.พ.นั้น ที่ประชุมจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลและร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคชาติไทยพัฒนาที่จะมีการยื่นเข้าสู่สภาฯ ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มีส.ส.ร.ขึ้นนั้นไม่ใช่เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ที่ขึ้นป้ายเป็นหมื่นป้ายแสน ติดสติกเกอร์คัดค้านอย่างที่เป็นข่าว เพราะอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ได้ การบิดเบือนข้อเท็จจริงนั้นจะทำให้ประชาชนสับสน และยิ่งเป็นการสุมไฟการเมืองให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน นอกจากแค่การสนองตัณหาของนักการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งเท่านั้น




เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์