ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเยือนสหพันธรัฐมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ก.พ.
พร้อมทั้งผลักดันความร่วมมือระดับทวิภาคีและในกรอบอาเซียน โดยจะเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ และจะเดินทางต่อไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมืองปุตราจายา เพื่อเข้าพบดาโต๊ะ ชรี มูฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน ฮัจญี อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในเวลา 15.30 น. โดยจะมีการต้อนรับอย่างเป็นทางการ การหารือเต็มคณะระหว่างไทย - มาเลเซีย และการลงนามในการแถลงการณ์ร่วมและการแถลงข่าวร่วม ต่อจากนั้น ในเวลา 18.15 น. นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ที่พระราชวัง Istana Negara ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ช่วงค่ำมีกำหนดการเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐมาเลเซียเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางกลับ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้ ยืนยันความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทย-มาเลเซีย
เนื่องจากมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญกับไทย และเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดในทุกด้านทุกระดับ ได้แก่ การรื้อฟื้นกลไกความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่เพื่อให้เกิดพลวัตทางความร่วมมือให้มีผลเป็นรูปธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะได้แสดงความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซีย (Joint Commission - JC) และการประชุมยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย (Joint Development Strategy - JDS) ภายในครึ่งแรกของปี 2555 เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมหารือประจำปี ครั้งที่ 5 ระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย ซึ่งมาเลเซียมีกำหนดเป็นเจ้าภาพ รวมถึงการเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการพิจารณากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย และความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงข้ามแดนที่ทั้งสองฝ่ายประสบร่วมกัน ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน อาทิ การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์และการลักลอบอาวุธ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะได้มีการผลักดันความร่วมมือกับมาเลเซียในสาขาเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ
แต่ยังไม่มีการดำเนินการเพื่อให้มีผลเป็นรูปธรรม อาทิ อุตสาหกรรมฮาลาลและการร่วมลงทุนในประเทศที่สาม รวมถึงความร่วมมือในการสร้างความกินดีอยู่ดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของไทยและรัฐทางเหนือและตะวันออกของมาเลเซีย เพื่อสนับสนุนความเชื่อมโยงในอาเซียน และในกรอบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ (Indonesia-Malaysia-Thailand - Growth Triangle หรือ IMT-GT) และการพัฒนายุทธศาสตร์เศรษฐกิจเพื่อการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสการเยือนครั้งนี้เชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum on East Asia ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 30 พ.ค. - 1 มิ.ย. 2555 ที่กทม