ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายประมวล เอมเปีย ผู้เชี่ยวชาญประจำผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำว่า
รัฐบาลมัวแต่ทุ่มงบประมาณไปทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการรับจำนำข้าวและมันสำปะหลังให้ผ่านสื่อเพื่อให้คนในสังคมรับรู้ว่าประสบความสำเร็จ แต่ในข้อเท็จจริงในพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวกลับสวนทางจากการโฆษณาชวนเชื่อของภาครัฐ เช่น โครงการจำนำข้าวที่ขณะนี้รัฐฐาลได้ปิดการรับจำนำไปแล้ว
ปรากฏว่าชาวนาส่วนใหญ่ยังเรียกร้องให้เปิดรับจำนำแม้จะได้ราคาต่ำกว่าที่รัฐกำหนดไว้ เพราะชาวนาในแต่ละภาค แต่ละพื้นที่จะลงมือทำนาต่างเวลากัน ผลผลิตที่ได้จะทะยอยออกสู่ตลาด การจำกัดเวลารับจำนำจึงเข้าทางพอ่ค้านายทุนคนกลางที่กักตุนข้าว ไปตกเขียวกดราคาข้าวไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยอ้างระยะเวลาในการโครงการจำนำข้าว ชาวนาจึงจำเป็นต้องขายข้าวในราคาถูก เช่นที่จ.ชลบุรี หลังปิดโครงการมีการกดราคาซื้อข้าวจากชาวนาจากที่รัฐตั้งไว้เกวียนละ 15,000 บาท ถุกกดลงเหลือเกวียนละ 7,000 บาทเท่านั้น และคิดว่าเหตุการณ์นี้คงเกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาค เพียงแต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น จึงถือว่าเป็นนโยบายที่ล้มเหลว เปิดทางให้นายทุน พ่อค้า นักการเมืองและข้าราชการร่วมมือกันทุจริตเอาเปรียบชาวนา
นายประมวล กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาลก็เช่นเดียวกัน ที่รัฐบาลเปิดราคากลางรับซื้อที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท แต่ปรากฏว่า ลานมันที่เข้าร่วมโครงการมีน้อยมาก เกษตรกรจะไปขายก็ต้องเสียค่าขนส่งเพราะทางไกลไม่คุ้มทุน จึงต้องขายให้ลานมันเอกชนที่ไม่ร่วมโครงการซึ่งกดราคาเหลือกิโลกรัมละ 1.60 บาท เท่านั้น ทั้งที่สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ใช้นโยบานยประกันราคาพืชผลการเกษตรให้ราคากลางไว้ที่กิโลกรัมละ 3.50 บาท และขายได้ถึงกิโลกรัมละ 4.50 บาท แต่รัฐบาลนี้กลับไม่ใช้ มองไม่เห็นประโยชน์ของเกษตรกรเป็นที่ตั้ง กลับมองเห็นผลกำไรของนายทุน เป็นที่ตั้ง ถือเป็นการซ้ำเติมทุกของแผ่นดิน
ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นยังเป็นการเปิดช่องให้มีการลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังสับตากแห้งจากประเทศเขมรขนขึ้นรถเทเลอร์พ่วงลาก วิ่งตรงจากชายแดนสู่ท่าเรือแหลมฉะบังและท่าเรือบางประกงเพื่อสวมสิทธิ์โควต้าเป็นมันสำปะหลังจากไทยเพื่อส่งออก สนนราคาจากชายแดนพร้อมการขนส่งถึงท่าเรือตกกิโลกรัมละ 6.80 บาท เป็นการเปิดช่องให้พ่อค้า ข้าราชการบางส่วนและนักการเมืองบางส่วนในรัฐบาลรวมหัวร่วมทุจริตคอรัปชั่น อาศัยโควต้ามันของไทยส่งออก กินมันกันจนจุกอก แล้วเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไทยจะอยู่กันอย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญประจำผู้นำฝ่ายค้านฯกล่าวต่อว่า ยังไม่นับรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ประสบราคาตกต่ำเช่นกัน จากเดิมที่รัฐบาลประชาธิปัตย์เคยประกันราคาให้ที่กิโลกรัมราคากลางไม่ต่ำกว่า 5 บาท ทำให้ราคาซื้อขายสูงถึงกิโลกรัมละ 8-9 บาท แต่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์กลับทำให้ราคาตกต่ำลงเพียงกิโลกรัมละ 3 บาทเท่านั้น เกษตรกรคนปลูกข้าวโพดแทบร้องไห้เมื่อผลผลิตออกสู่ตลาด จะอ้างเหตุผลความต้องการของตลาดสูง พ่อค้าก็ไม่ฟังกดให้เท่านี้จะขายหรือไม่ขาย
เพราะผีถึงหลุมที่สุดก็ต้องถูกมัดมือชกขายในราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ที่พูดมาทั้งหมดล้วนมีหลักฐาน ข้อมูลและเป้นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตของพี่น้องเกษตรกรไทยที่วันนี้ถูกละเลย ต้องขอชมเชยรัฐบาลนี้ว่า ทำให้เกษตรกรไทยเกือบทุกแขนงต้องประสบชะตากรรมล้มละลายโดยสิ้นเชิง ในอาชีพดั้งเดิมที่ยึดทำมาหลายชั่วอายุคน ส่งเสริมให้นายทุนผูกขาดไม่กี่รายกำหนดชะตากรรมชีวิตของเกษตรกรไทยหลายสิบล้านครอบครัว โดยมีพรรคการเมืองบางพรรคและนักการเมืองไม่กี่คนอยู่เบื้องหลังได้รับผลประโยชน์บนคราบน้ำตาของเกษตรกรไทยเช่นนี้