วันนี้( 12 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย นายนชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การที่พรรคเพื่อไทยพยายามพูดว่าพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลงและลังเลการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์พูดชัดว่าต้องเป็นการแก้ไขที่ต้องระบุว่ามีเรื่องใด และเพราะอะไร แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยพยายามอ้างกระบวนการส.ส.ร. เพื่อล้มล้างข้อกฎหมายบางข้อเพื่อผลประโยชน์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทยยังอ้างว่าได้รับเลือกตั้งมาเป็นประชาธิปไตย ตนก็ต้องย้อนถามกลับไปว่าสติความจำสั้นหรืออย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 ผ่านการทำประชามติจากประชาชนทั้งประเทศเช่นกัน จึงขอให้เลิกใช้โวหารอย่างเดียว แล้วโต้ตอบกับพรรคประชาธิปัตย์บนพื้นฐานของข้อมูลสติปัญญา
นายชวนนท์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าการพบกันะหว่าง พล.อ.เปรม ติณสูานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในงานเลี้ยง"รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" เป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดอง ว่า แม้ตนจะเห็นด้วยในการสร้างความปรองดองและกระบวนการสามัคคีเป็นเรื่องที่ถูกต้องและประเทศไทยต้องเดินหน้าไป แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคเพื่อไทย หรือผู้ที่อยู่ในอำนาจขณะนี้ใช้กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นตัวหลอกล่อในการดึงเข้ามาเป็นพวกสนับสนุนเพื่อล้มล้างรัฐบาลชุดที่แล้ว และตัวเองได้เข้าสู่อำนาจ แล้วคนเสื้อแดงไม่ได้มีความหมายในสายตาของพ.ต.ท.ทักษิณ อีกต่อไป เช่นเดียวกับนายโรเบิร์ต อัมเตอร์ดัมส์ ทนายความส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ หรืออีกหลายๆคนที่พ.ต.ท.ทักษิณได้ละทิ้งมา
นายชวนนท์ กล่าวต่อถึงโครงการจำนำข้าวในขณะนี้มีความล้มเหลว เพราะมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 5 ล้านตันจากเป้าหมาย 25 ล้านตัน ขณะนี้เหลือเวลาอีก 25 วันก่อนจะสิ้นเดือนก.พ.ที่โครงการนี้จะหมดอายุ เพราะฉะนั้น ขณะนี้นักการเมืองและพ่อค้าคนกลางกำลังวิ่งวุ่นชขาขวิดหาข้าวมาเติมกับโควต้าที่เหลืออีก 20 ล้านตัน นอกจากนี้โครงการรับจำนำมันสำปะหลังกำลังเป็นแบบเดียวกัน โดยที่ อ.บ้านกรวดและอ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เกษตรกรมันสำปะหลัง มีลานมันรับจำนำเพียงแห่งเดียว และไม่รับจำนำตามราคาที่รัฐบาลตั้งไว้ ซึ่งสิ่งที่เขาเรียกร้องคือลานมันที่รัฐบาลประกาศ 20 กว่าแห่ง ไม่มีคุณสมบัติตามที่ได้ตกลงกันไว้ อีกทั้ง เกษตรกรที่จ.บุรีรัมย์ ระบุว่ากำลังมีการนำมันสำปะหลังจากประเทศกัมพูชาเข้ามาสวมสิทธิ์ในไทย จำนำได้ในราคากิโลกรัมละเกือบ 3 บาท แต่เกษตรกรชาวไทยได้กิโลกรัมละ 1.20 บาท จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลนำโครงการประกันรายได้กลับมาใช้ ตนคิดว่ารัฐบาลยอมเสียหน้าดีกว่า เพราะนโยบายประกันรายได้เป็นสิ่งที่ดีกับประชาชน