เฉลิมฟิวส์ขาด-ฉะนสพ. 2 ฉบับตีข่าวเปลี่ยนผบ.ตร.

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวถึงการกรณีกระแสข่าวความแตกแยกของข้าราชการ

ตำรวจระดับสูงภายหลังจากการมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่รับผิดชอบแล้วว่าในเรื่องนี้ตนอยากจะบอกผู้สื่อข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับที่ลงข่าวแล้วไม่รับผิดชอบ ใช้ความรู้สึกส่วนตัว ขอประจานหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับนี้ ไม่เคยเกรงกลัว ไม่ชอบหน้าผมไม่ต้องเอาข่าวผมไปลง ทำนองว่าจะเปลี่ยนพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แล้วเอาพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ไปแทนนั้น แค่คิดยังไม่เคยคิด

"คนที่จะเปลี่ยนผบ.ตร. ได้ต้องเป็น ก.ต.ช. ผมเนี่ยก.ตร. ย้ายไปช่วยราชการก็ไม่ได้ต้องเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี ผมเป็นรองนายก และไม่เคยมีความคิดเปลี่ยนแปลงผบ.ตร. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ไม่เคยว่าวิ่งเต้น แต่เหตุที่สนิทกันเพราะผมเป็นสว.กองปราบปราม แล้วเขาเป็นรองสว.สส.เขตเหนือขณะนั้น จึงสนินทกัน ขอย้ำอีกครั้ง เครือเนชั่น ใช้ไม่ได้ จากนี้ต่อไปกรุณาด่าผม ถ้าผมก็จะด่าทุกที่ และผมจะประจานทุกที่ไม่เข้าท่า เพราะงานตำรวจกำลังไปได้ดี ทั้งเรื่องยาเสพติด แต่กลับไปเขียนให้คนหวาดระแวง ผมขอยืนยันว่าไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนตัวผบ.ตร.เพราะเขาเป็นคนทำงานดี ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยออกมากล่าวหาเกี่ยวกับยาเสพติด มีการจัดเตรียมจากของเก่านั้น ตรงนี้ไม่มีแน่นอน เพราะผู้ต้องหายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต" รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามเรื่องเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนหน้างานรับผิดชอบระดับ รองผบ.ตร. ให้พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ดูแลพื้นที่ภาคอื่นแทนบช.น. มีนัยยะอะไรหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีนัยยะอะไร และอย่าไปเชื่อสื่อ 2 ฉบับดังกล่าว เพราะตำรวจอยู่ที่ไหนก็ได้ และการที่ดูแลบช. 1, 2, 3, 4 ถือว่าดี จะได้ลงไปช่วยปราบปรามยาเสพติดภาคอีสาน เพราะฐานการเมืองพรรคเพื่อไทยอยู่ภาคอีสาน ตำรวจยุคนี้เก่ง ร่วมมือกันดี ซึ่งเรื่องยาเสพติดหลังจากวันนี้ลงไปอีสานแล้วเดินทางต่อไปยังภาคเหนือ และเรื่องนี้ไม่มีนัยยะอะไรซ่อนเร้น ไม่มีการแตกแยกกัน แต่เป็นความริษยาของคนบางคน และเห็นตำรวจทำงานได้ดี

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าใครริษยาตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นักข่าวไงที่ไม่อยากให้งานเดินไปได้ จริงๆ แล้วตำรวจรักกันไม่มีอะไรเลย จะไปเขียนทะเลาะเบาะแวงกันทำไม