เมื่อวันที่ 31 ม.ค. เวลา 14.15 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แถลงผลประชุมครม.ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมครม.ว่าในระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ. นี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทาง เพื่อติดตามเร่งรัดการดำเนินงานแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยจะลงพื้นที่ไล่ตั้งแต่พื้นที่จังหวัดต้นน้ำ กลางน้ำไปถึงปลายน้ำ โดยเริ่มจากวันที่ 13 ก.พ.จะมีการประชุมครม. หลังจากนั้นจะเดินทางไปที่เขื่อนสิริกิตติ์ จ.อุตรดิตถ์ เดินทางโดยรถยนต์ออกตรวจเยี่ยมในพื้นที่ต่าง ๆ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรน้ำ ดูเรื่องแผนบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งหมดว่าจะเสร็จได้เมื่อไร ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องไปดูเรื่องการปล่อยและระบายน้ำ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องไปดูเรื่องการเตือนภัย ขณะที่สำนักงบประมาณลงพื้นที่เพื่อรับทราบถึงการใช้จ่ายเงิน และกำชับทุกกระทรวงลงไปกำชับท้องถิ่น ให้การบริหารจัดการงบประมาณเป็นไปอย่างโปร่งใส
นางฐิติมากล่าวต่อว่าในวันที่ 21-22 ก.พ. จะประชุมครม.สัญจรที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี จ.อุดรธานี
โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นเจ้าภาพ โดยวันที่ 21 ก.พ.นี้ครม.จะกระจายลงพื้นที่ 12 จังหวัดตอนบนของภาคอีสาน ได้แก่ จ.สกลนคร ,นครพนม ,บึงกาฬ ,หนองคาย ,หนองบัวลำภู ,เลย ,มุกดาหาร ,ขอนแก่น ,กาฬสินธุ์ ,ร้อยเอ็ด ,มหาสารคาม และ จ.อุดรธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด ว่ารัฐมนตรีคนใดจะลงพื้นที่ไหนบ้าง โดยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะประสานและจัดกำหนดการอีกครั้ง จากนั้นจะประชุมครม.ในวันที่ 22 ก.พ.