ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจวันสุดท้ายของการร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ครั้งที่ 42 ถึงการจัดงานไทยแลนด์ ไนท์ เมื่อคืนวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า การจัดงานถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีกลุ่มนักลงทุนเดิมและกลุ่มผู้ที่สนใจเข้าลงทุนใหม่ เข้าร่วมงานมากกว่าที่คาดการณ์ มั่นใจว่าจากความสำเร็จนี้จะทำให้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมประชุม ประจำปี World Economic Forum on East Asia ที่จะจัดในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. นี้อย่างแน่นอน และเชื่อว่าจะทำให้มีผู้สนใจลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพราะไทยมีจุดแข็งและมีศักยภาพพร้อมในการลงทุน อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ไม่มีการสอบถามถึงกรณีที่สหรัฐ และหลายประเทศ ประกาศเตือนห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย เนื่องจากอาจเกิดเหตุก่อการร้าย เพราะต่างก็มั่นใจความปลอดภัยในประเทศไทย และขณะนี้หลายประเทศที่เข้าใจผิด ได้ถอนประกาศแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนการพบกับประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส ได้เชิญเข้าร่วมเป็นสมาชิกการประชุมเอเชีย-ยุโรป (ASEM) โดยเป็นครั้งแรกที่สมาพันธรัฐสวิสจะเข้ามาเป็นสมาชิกและจะเข้าร่วมการประชุมที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ยังได้หารือถึงการทำเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสองประเทศ และจะนำผลการหารือเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.ต่อไป เชื่อว่าหากสำเร็จจะทำให้ทั้งสองประเทศมีการค้า การท่องเที่ยวและความสัมพันธ์เพิ่มพูนระหว่างกัน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีและยูโรนิวส์ ว่าสื่อมวลชนต่างประเทศได้ถามถึงสถานการณ์ในประเทศไทย เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเราให้ความมั่นใจว่าขณะนี้ความมั่นคงภายในประเทศได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ มีความสงบสุข มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตขึ้น โดยตั้งเป้าตัวเลขจีดีพีจะโตขึ้นอีก ร้อยละ 5 ในปีนี้
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินครซูริก และเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 13.25 น. ของวันที่ 29 ม.ค.