ตั้งอนุไต่สวนทักษิณ-อ้อกรณีหนุนจนท.ทำผิดซื้อที่ดินรัชดา

ประพฤติไม่ชอบซื้อที่ดินย่านรัชดา ด้านประธานคตส.เซ็นตั้งอนุกรรมการไต่สวนวันนี้ (17มกราคม)

(17มค.)นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตที่คตส.ชี้มูลไปแล้ว 3 คดี

คือ คดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซื 9000 คดีท่อร้อยสายไฟฟ้าสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากที่ทอท.ได้ยื่นร้องทุกข์เพิ่มเติม โดยระบุรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาครบถ้วนแล้ว

นอกจากนี้วันที่ 16 มค.ที่ผ่านมา กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคตส.เรียบร้อยแล้ว โดยระบุชื่อผู้ถูกกล่าวโทษพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยานายกรัฐมนตรี ผู้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการประพฤติมิชอบ

ดังนั้นในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ตนจะลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนทั้งหมดและจะส่งหนังสือให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คดี ได้คัดค้านรายชื่อคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณและภริยา

ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการแจ้งที่อยู่ ส่วนกรณีที่คตส.ได้ชี้มูลการทุจริตการจัดซื้อกล้ายาง 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตรนั้น ในสัปดาห์นี้คตส.จะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปถึงหน่วยงานรัฐที่เสียหายคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ให้มาร้องทุกข์โดยเร็ว

เมื่อถามถึงผลการหารือกับพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผบ.ทบ. ประธานคมช. นายนาม กล่าวว่า มีการถามสารทุกข์สุขดิบเป็นธรรมดาและได้มอบของขวัญให้คตส. โดยพล.อ.สนธิ เป็นสุภาพบุรุษมาก

ไม่ได้เร่งรัดให้คตส.ต้องทำงานโดยเร็ว แต่ก็มีการพูดคุยกันบ้างถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบในแต่ละคดี ซึ่งพล.อ.สนธิ ก็เข้าใจดี เพราะส่วนหนึ่งได้ติดตามการทำงานของคตส.จากสื่อมวลชนเป็นประจำ

เมื่อถามว่าได้มีการหารือถึงแนวทางการรับมือ กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการกลับมาสู้คดีในประเทศไทยหรือไม่ นายนาม กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคมช. ว่าจะจำเป็นหรือไม่ เพราะการชี้แจงและการต่อสู้คดีทำได้หลายวิธี เช่น การชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร

หรือจะมีการชี้แจงผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ก็ได้ อย่างไรก็ตามคตส.ได้เตรียมแนวทางการที่จะให้คณะอนุกรรมการไต่สวน เดินทางไปสอบพ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศ เอาไว้ด้วย แต่เป็นเรื่องของอนาคตที่จะต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่งว่าจำเป็นหรือไม่

นายอำนวย ธันธรา หนึ่งในคตส.ในฐานะผู้รับผิดชอบการตรวจสอบโครงการจัดซื้อซีทีเอ็กซ์ 9000 เปิดเผยกรณีคตส.ไม่สามารถตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โครงการจัดซื้อซีทีเอ็กซ์ 9000และโครงการท่อร้อยสายไฟ

ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากทางบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ไม่ได้ระบุชื่อผู้ที่ถูกคตส.ชี้มูลความผิด ว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ทอท.ได้เข้ามายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษมาเป็นครั้งที่สอง

โดยมีการระบุรายชื่อผู้ที่ถูกกล่าวหาไว้ชัดเจนแล้ว จึงถือว่าการร้องทุกข์กล่าวโทษได้ครบสมบูรณ์แล้ว ทำให้คตส.สามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้

นายอำนวย กล่าวว่า ขั้นตอนของอนุกรรมการไต่สวนที่จะส่งรายชื่อผู้ที่ถูกกล่าวหาให้มาทำการคัดค้าน จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการแก้ข้อกล่าวหา โดยส่วนตัวรู้สึกหนักใจในเรื่องระยะเวลาในการทำงาน

เพราะสำนวนของอนุกรรมการตรวจสอบ ที่สรุปเบื้องต้น สามารถรวบรวมข้อมูลได้เพียง 80% ยังมีประเด็นที่ต้องรวบรวมเพิ่มเติม โดยตนต้องการให้มีข้อมูลคอรบ 100% เพราะไม่อยากให้เป็นจุดอ่อน ให้ผู้ถูกกล่าวหาต่อสู้ในชั้นศาลได้

"สำหรับประเด็นที่ต้องการรวบรวมเพิ่มเติมนั้น เป็นข้อมูลเกี่ยวกับบางบริษัท ที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคณะอนุกรรมการต้องการทราบความเป็นมาของบริษัทดังกล่าว แต่จะต้องขอความร่วมมือผ่านทางอัยการสูงสุด ตามสนธิความร่วมมือระหว่างประเทศในคดีอาญา เพื่อประสานให้รัฐบาลสหรัฐฯ สอบสวนในประเด็นที่เราต้องการ โดยตนได้ร่างหนังสือ และประเด็นคำถามเอาไว้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะสอบสวนให้เราได้เมื่อใด และจะใช้เวลานานเท่าใดด้วย"นายอำนวยกล่าว

เมื่อถามถึงแนวทางในการเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในเรื่องนีเข้ามาแก้ข้อกล่าวหากับคตส. นายอำนวยกล่าวว่า อดีตนายกฯสามารถชี้แจงได้หลายทาง เช่น ทางเอกสาร แต่ทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวพ.ต.ท.ทักษิณเอง ว่าจะมาชี้แจงด้วยตัวเองในประเทศไทยหรือไม่

ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องดูที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ว่าจะให้อดีตนายกฯกลับเข้าประเทศเพื่อแก้ข้อกล่าวหาด้วยตัวเองหรือไม่

"ถ้าคมช.ไม่เปิดโอกาสคตส.ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยต้องสอบถามไปทางทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าต้องการชี้แจงผ่านระบบวีโอคอนเฟอเร็นซ์หรือไม่ ถ้าอดีตนายกฯไม่รับข้อเสนอ อนุกรรมการก็พร้อมที่จะเหนื่อยเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพ.ต.ท.ทักษิณ คือยอมที่จะเดินทางไปรับฟังการแก้ข้อกล่าวหาของอดีตนายกฯในต่างประเทศ แล้แต่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะสะดวกแก้ข้อกล่าวหาที่ประเทศใดและในวันใด ก็ให้กำหนดวันมา ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยคุยกับนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส.แล้ว นายนามก็เห็นด้วยแต่คงจะต้องหารือกับที่ประชุมคตส.เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องไปสอบปากคำพ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศจริงๆ" นายอำนวยกล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณยืนยันที่จะกลับประเทศเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาจะทำอย่างไร นายอำนวยกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอ้างได้ยาก เพราะการที่อนุกรรมการจะเดินทางไปสอบปากคำพ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศ ไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าตรงนี้จะทำให้รักษาความเป็นธรรม และรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้

อนึ่งก่อนหน้านี้พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ดทอท.แสดงความไม่พอใจต่อมติเสียงข้างมากของคณะกรรมการบริหารทอท.ที่มีมติให้ทอท.

ไปกล่าวโทษกับคตส.โดยไม่ยอมระบุชื่อบุคคล ที่มีความผิดทั้งสองคดีที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนายสุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.คมนาคม ที่ถูกคตส.ตั้งข้อกล่าวหา

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์คม.ชัด.ลึก