นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ทางบลูสกาย เคเบิ้ลทีวี ถึงข้อเสนอของนิติราษฎร์ที่เสนอให้ตั้งคณะกรรมการ 25 คน เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 9 เดือนว่า
เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตจะพบว่ามีความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้วหลายครั้งในอดีต แต่มีการแก้ไขจริงเพียงไม่กี่มาตรา ซึ่งในสมัยรัฐบาลที่แล้วตนเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการ เนื่องจากขณะนั้นมีคดียุบพรรคของพรรคประชาธิปัตย์ค้างอยู่ในศาล และการที่ส.ส. สว. มีการเสนอในลักษณะที่จะเป็นการเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง สังคมก็อาจมองได้ว่าเป็นการแก้เพื่อตัวเอง ดังนั้นจึงให้ทางคณะกรรมการฯ ของ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่เป็นประธานฯ เข้ามาดูแล
เมื่อถามว่า ในขณะที่แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ใช้กระบวนการทาง ส.ส.ร. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นการเลี่ยงปัญหาเหมือนที่ผ่านมา คือให้ ส.ส. สว. ใช้ลักษณะมอบอำนาจให้ ส.ส.ร. เข้าไปทำร่างฯ ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องใช้เวลาพอสมควรและยังไม่ได้มีการพูดคุยว่าจะมีขอบเขตแค่ไหนอย่างไร
“การแก้รธน.ในมาตราหลัก ๆ ใหญ่ ๆ หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบการเมืองก็ไม่ค่อยมีใครติดใจเท่าใจเท่าไหร่ อาจจะมีความเห็นแตกต่างกันบ้าง เช่น จำนวน ส.ส. เท่าไหร่ ส.ว.เท่าไหร่ แต่เมื่อเป็นเรื่องของอำนาจส.ส. สว.แล้ว ก็จะมีคนกลางเข้ามาดูเพราะเห็นว่าจะปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมอย่างไร ก็น่าจะยอมรับกันได้มากขึ้น”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนที่อาจมีผู้ไม่ยอมรับในเรื่องดังกล่าวด้วยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่คนไม่ยอมรับ อาจเป็นเพราะมีความกังวลว่าจะมีการไปแก้ไขบางหมวด เช่นหมวดพระมหากษัตริย์ เพราะขณะนี้มีความเคลื่อนไหว อย่างกลุ่มนิติราษฎร์เอง ก็มีข้อเสนอเกี่ยวกับหมวดพระมหากษัตริย์ และคนจำนวนมากไม่เห็นด้วย อีกทั้งมีความกังวลว่าอาจมีการไปแก้ไขในลักษณะที่หวังให้เกิดการอภัยโทษนิรโทษย้อนหลัง และตนแปลกใจว่า ที่คณะนิติราษฎร์ซึ่งทราบอยู่แล้วว่ารัฐบาลมีนโยบายที่จะให้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง และไม่เคยท้วงติงเลย แต่พอระยะหลังเริ่มนำร่องจาก นายอุกฤษก่อน แล้วก็มาตรงนี้ด้วยก็จะสอดรับกันเป็นแถว หลังจากที่มีข่าวคราว ก่อนหน้านี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ค่อยอยากให้มี ส.ส.ร.
กับข้อเสนอของนิติราษฎร์เสนอให้มีการแก้ไขรธน.ในหมวดที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 4 ส่วน ประกอบด้วยบททั่วไป สิทธิเสรีภาพ สถาบันการเมือง องค์กรอิสระ และการต่อต้านรัฐประหารและลบล้างผลพวงจากรัฐประหารนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทุกครั้งคนที่อยู่ในระบบนี้ก็คิดตลอดเวลาในการหาวิธีเขียนกฎหมายที่จะป้องกันหรือไม่ให้เกิดการปฏิวัติ รัฐประหารอีก โดยข้อเท็จจริงแล้วเทคนิคในการเขียนกฎหมายนั้น ก็จะเป็นปัญหา สมมติว่าเขียนในรัฐธรรมนูญเวลาปฏิวัติเขาก็ฉีกรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงอยู่ในประเด็นที่ว่าใครเป็นองค์รัฐาธิปัตย์มากกว่า เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
