วันนี้(19 ม.ค.) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ
เรื่อง เปรียบเทียบความนิยมศรัทธาของสาธารณชนต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พบว่าความนิยมของสาธารณชนต่อนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 38.6 ในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ร้อยละ 34.7 ในเดือนมกราคม ในขณะที่ ความนิยมของสาธารณชนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 12.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 14.2 และกลุ่มคนที่ไม่นิยมศรัทธาใครเลยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 48.5 มาอยู่ที่ร้อยละ 51.1 อย่างไรก็ตาม ยังคงถือว่า ความนิยมของสาธารณชนต่อนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรยังคงสูงกว่าความนิยมของประชาชนที่มีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เมื่อจำแนกตามลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ผู้ชายนิยมนายกรัฐมนตรีหญิงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มากกว่ากลุ่มตัวอย่างผู้หญิงเพียงเล็กน้อยหรือในทางสถิติถือว่าไม่แตกต่างกันคือร้อยละ 35.4 ต่อร้อยละ 34.1 แต่เมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่าผู้ที่อายุสูงกว่า 50 ปีขึ้นไปนิยมศรัทธานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมากกว่า กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี คือ ร้อยละ 38.3 ต่อร้อยละ 34.0 ในขณะที่กลุ่มช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปีกลายเป็นกลุ่มคนที่ไม่นิยมศรัทธาใครเลยมากที่สุดคือร้อยละ 54.0
เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษาพบว่า กลุ่มคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีร้อยละ 35.5 นิยมศรัทธานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ในขณะที่ผู้มีการศึกษาระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีขึ้นไปนิยมศรัทธานางสาวยิ่งลักษณ์ น้อยกว่าอยู่ที่ประมาณร้อยละ 31.0 ในขณะที่มีแนวโน้มชัดเจนในความนิยมต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคือ ยิ่งตัวอย่างมีการศึกษาสูงขึ้น มีแนวโน้มนิยมต่อนายอภิสิทธิ์เพิ่มขึ้นคือ ร้อยละ 13.2 ในกลุ่มคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีนิยมนายอภิสิทธิ์ ร้อยละ 18.5 ของกลุ่มคนที่มีการศึกษาปริญญาตรี และร้อยละ 21.6 ของกลุ่มคนที่มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีนิยมนายอภิสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกลุ่มคนที่มีการศึกษาสูงยังคงเป็นคนกลุ่มน้อยของประเทศส่งผลให้โดยภาพรวมความนิยมศรัทธาของประชาชนต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรสูงกว่านายอภิสิทธิ์กว่าสองเท่า
เมื่อจำแนกตามอาชีพ พบว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนว่างงานร้อยละ 41.3 กลุ่มพ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุร้อยละ 38.7 และกลุ่มเกษตรกร รับจ้างใช้แรงงานทั่วไปร้อยละ 37.6 ตามลำดับ ในขณะที่นักเรียนนักศึกษากลายเป็นกลุ่มที่ไม่นิยมใครเลยสูงถึงร้อยละ 57.4
เมื่อจำแนกตามพื้นที่พบว่า ประชาชนนอกเขตเทศบาลนิยมศรัทธาต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมากกว่าประชาชนในเขตเทศบาลคือร้อยละ 38.1 ต่อร้อยละ 29.3
ในขณะที่คนในเขตเทศบาลนิยมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะร้อยละ 15.9 ส่วนคนนอกเขตเทศบาลนิยมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะร้อยละ 13.3 และที่น่าสนใจคือ คนในเขตเทศบาลเกินครึ่งหรือร้อยละ 54.8 ไม่นิยมศรัทธาใครเลย
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อจำแนกตามภูมิภาค พบว่า ประชาชนเกือบทุกภาคนิยมศรัทธานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมากกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยกเว้นภาคใต้
คือ คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกินครึ่งหรือร้อยละ 51.2 รองลงมาคือคนภาคเหนือร้อยละ 36.8 คนกรุงเทพมหานครร้อยละ 32.2 คนภาคกลางร้อยละ 27.6 แต่คนภาคใต้เพียงร้อยละ 4.5 ที่นิยมนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะที่ คนภาคใต้ร้อยละ 38.3 นิยมศรัทธานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ คนในภาคกลางส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.9 ไม่นิยมศรัทธานักการเมืองทั้งสองท่านนี้เลย