น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ อย่างเป็นทางการ
โดยกล่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ถือเป็นการปรับหลังจากมีการทำงานในระยะหนึ่งแล้ว และปรับเพื่อความเหมาะสมลงตัว เนื่องจากขณะนี้ประเทศกำลังอยู่ในขั้นตอนของการฟื้นฟู ยืนยัน ไม่ได้เป็นการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นการต่างตอบแทน ตามที่หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ แต่ได้พิจารณาตามความรู้ความสามารถ ไม่ผิดฝาผิดตัว แต่อาจจะมีหลายคนที่ไม่คุ้นหน้า ซึ่งหากพิจารณาดูคุณสมบัติและความสามารถแล้ว ส่วนใหญ่ตรงกับงานที่ต้องไปดูแล
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า การปรับให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 10 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น เชื่อว่าทหารจะสามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลได้ ไม่มีปัญหาในอนาคต
ส่วนกรณีการแต่งตั้งให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ นั้น นายณัฐวุฒิ เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ
และเข้าใจปัญหาของเกษตรกรได้ดี ส่วนกรณีของ นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีการแจ้งว่า ติดบัญชีดำของต่างประเทศนั้น ก่อนการพิจารณารัฐบาลได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นแล้ว และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนหน้านี้ นางนลินี ได้มีการชี้แจงไปแล้วบ้าง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องให้เจ้าตัวชี้แจงอีกครั้ง และเห็นว่าจะไม่เป็นปัญหาของคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ส่วนการเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น นายกรัฐมนตรี เห็นว่าจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค เพราะการเปลี่ยนครั้งนี้ แทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่ก่อนหน้านี้ นายกิตติรัตน์ ดูแลด้านเศรษฐกิจมาโดยตลอด เพียงแต่ครั้งนี้ นายกิตติรัตน์ จะเข้าจะเข้ารับผิดชอบโดยตรง ขณะเดียวกันเห็นว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญ ดังนั้น จึงต้องให้ นายกิตติรัตน์ มาดูแลเศรษฐกิจโดยตรง ทั้งจะทำงานควบคู่กับคณะกรรมการ กยอ. อย่างใกล้ชิดด้วย