บรรณพจน์ วางหลักประกัน 546 ล้าน ยื่นอุทธรณ์คดีเลี่ยงภาษีหุ้นชิน

กรณีรับหุ้นชินคอร์ปจากคุณหญิงพจมาน ซึ่งต้องเสียภาษีจำนวน 546 ล้านบาท ต่อสรรพากรกรุงเทพมหานครภาค 3 ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่อง

โดยวางหลักประกันรวมถึงเบี้ยปรับเงินเพิ่ม โดยแบงก์การันตีเป็นเงินจำนวน 546 ล้านบาท

หากพิจารณาสรุปว่าไม่ต้องเสียภาษี ก็ต้องยกฟ้อง แต่หากสรุปว่าต้องเสียภาษี นายบรรณพจน์สามารถอุทธรณ์ โดยยื่นไปที่ศาลภาษี ซึ่งสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นและศาลฎีกา

กรมสรรพากรจะร่วมหารือกับคตส. ว่า จะใช้มาตราใดในการจัดเก็บภาษีระหว่างมาตรา 40 (8) หรือ 40 (2) โดยต้องเร่งสรุปให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ เพราะเป็นเดือนสุดท้ายที่ต้องมีการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คตส.ระบุให้ใช้มาตรา40(2) ในการจัดเก็บ ส่วนกรมสรรพากรระบุให้ใช้มาตรา 40(8) ในการจัดเก็บ

ขณะที่แหล่งข่าว คตส. เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงกรณีที่นายบรรพจน์ ยื่นหลักทรัพย์เป็นแบงก์การันตี จำนวน 546 ล้านบาท ไปยังสำนักงานสรรพากร เพื่ออุทธรณ์คดี ซึ่งกรรมการได้มีแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการแสดงออกถึงความต้องการที่จะประวิงเวลาทางการเมือง

เพราะเป็นที่รู้กันว่าการอุทธรณ์ลักษณะนี้ และการพิจารณาในชั้นศาล ซึ่งตามกฎหมายจะต้องผ่านการพิจารณาพิพากษาถึงสองศาล ได้แก่ ศาลภาษี และศาลฎีกา ที่กระบวนตรงนี้จะไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด อย่างในอดีตที่ผ่านมายังเคยต้องต่อสู้คดีแบบนี้ถึง 7 ปี

"การประวิงเวลาในครั้งนี้ เป็นแสดงออกที่เขาต้องการให้อายุการทำงานของ คตส.หมดลงในเดือนกันยายนนี้ และผู้ถูกกล่าวหามีจุดประสงค์ที่จะชี้แจงต่อสังคม ภายหลังสิ้นสุดการทำงานของ คตส. ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นโอกาสที่ คตส.แต่ละท่านจะหาช่องทางในการชี้แจงต่อสังคมก็ทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม คตส.ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว เช่นพยานเอกสารที่มีความชัดเจนเพื่อเสนอต่อศาล และพร้อมที่จะไปเป็นพยานในชั้นศาลด้วย โดยเฉพาะพยานที่ คตส.เรียกมาให้ข้อมูล ก็พร้อมให้ความร่วมมือเมื่อคดีความอยู่ในชั้นศาล" แหล่งข่าว คตส.กล่าว

นายไพโรจน์ เฮงสกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มีมติให้ยื่นคำร้องต่อ คตส.เพื่อดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา กรณีการจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก

"เมื่อ คตส.ชี้ขาด และขอความร่วมมือ เพื่อให้สามารถมีการไต่สวนต่อไป เราจึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี และเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และชัดเจน จึงได้มีมติที่จะยื่นคำร้องเป็นหนังสือให้ดำเนินคดี" นายไพโรจน์ กล่าว และว่า ขั้นตอนหลังจากนี้กองทุนจะทำคำร้องยื่นให้ คตส.เพื่อให้ดำเนินคดีดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เพื่อให้มีการไต่สวนต่อไป

ทั้งนี้ ประเด็นที่จะยื่นคำร้องให้ดำเนินคดี เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีหน้าที่กำกับดูแล แต่มาทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ในประกาศการขายที่ดินของกองทุนยังได้ระบุว่า ผู้ประมูลซื้อต้องพิจารณาคุณสมบัติของตัวเองว่า สามารถทำนิติกรรมกับหน่วยงานของรัฐได้หรือไม่ ดังนั้นในเรื่องนี้ ผู้ซื้อจึงต้องพิจารณาเอง

บรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคนโตของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นบุตรบุญธรรมของครอบครัว พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ และนางพจนีย์ ณ ป้อมเพ็ชร์ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และเรียนหลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 9

นายบรรณพจน์ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ประจำปีการศึกษา 2549-2550 และกรรมการสถาบันพระปกเกล้า

นายบรรณพจน์ สมรสกับนางบุษบา ดามาพงศ์