ปูสั่งโกวิท-ยุทธศักดิ์-สุรพงษ์ยันความปลอดภัยในไทย

ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

แถลงผลการประชุม ครม. ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงกรณีเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ว่า จะเกิดเหตุก่อการร้ายในประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นสามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน


พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า ภายหลังที่มีข่าวว่ามีบุคคลผู้ต้องสงสัยที่จะเป็นปัญหาเข้ามาในประเทศไทย

ตนขอเรียนว่าหน่วยงานด้านความมั่นคง ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น ได้ทำงานติดตามมาโดยตลอด ซึ่งทางราชการไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวว่าช่วงใดมีบุคคลผู้ต้องสงสัยเดินทางผ่านเข้ามาหรือเข้ามาแล้ว เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องติดตามดูแลพฤติกรรมต่างๆ รัฐบาลจะดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ พี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง


นายสุรพงษ์กล่าวว่า กรณีที่มีสื่อให้ข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศจะเชิญทูตมาพบนั้น ไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น
 
เพราะการทูตเป็นเรื่องอ่อนไหว ตนไม่ได้พูดเลยว่าจะเชิญทูตเขามาตำหนิ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งเราต้องรักษาไว้ ขณะนี้มี 14 ประเทศที่ประกาศเตือนภัยนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทย โดยมีแค่ประเทศเยอรมนี อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ จีน ไต้หวัน ที่ไม่ได้อ้างอิงประกาศของสหรัฐอเมริกา วันนี้นายกฯและ ครม.เป็นห่วงในเรื่องนี้ ยืนยันว่าเราจะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความสบายใจว่าเราได้ป้องกันเหตุการณ์ร้ายไว้แล้ว


ปูสั่งโกวิท-ยุทธศักดิ์-สุรพงษ์ยันความปลอดภัยในไทย

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในวันที่ 16 มกราคม กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้เอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่างๆ
 
ชี้แจงให้ประเทศเหล่านั้นเข้าใจสถานการณ์ที่ถูกต้อง เพราะผลกระทบตามมาว่าทัวร์ของประเทศต่างๆ ได้ยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งเราเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เพราะในช่วงนี้มีคนต่างประเทศมาเที่ยวเยอะ เราจึงต้องรีบให้เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศต่างๆ นำข้อเท็จจริงไปสู่ประเทศนั้นๆ เข้าใจสถานการณ์ ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมาย เราเป็นมิตรกับทุกประเทศ


พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2554

ซึ่งเราได้รับการรายงานจากฝ่ายการข่าวของประเทศอิสราเอล ซึ่งเรียกหน่วยโมสาร์ท ซึ่งเป็นหน่วยที่สามารถติดตามข่าวได้อย่างแน่นอน ได้ประสานงานกับทางทหาร ตำรวจ ฝ่ายข่าว มาตลอด ข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายเฮซบอลเลาะห์เรารู้อยู่แล้ว และเราก็ติดตามอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราติดตามอยู่ตลอดเวลาเราไม่ได้เข้าไปจับกุมเขา เพราะว่าหากยังไม่ปรากฏความผิดเอาตัวไปก็ไม่ได้อะไร ฉะนั้น เรารอให้มันมีสัญญาณที่จะเกิดความผิดเสียก่อน


"เราตกลงกับทางฝ่ายข่าวของสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลว่า เรื่องนี้เราจะดำเนินการโดยความเงียบสงบ ไม่ต้องแพร่งพรายอะไร เนื่องจากเราไม่ต้องการให้มีข่าวนี้เกิดขึ้นกับประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมาจะทำให้ประชาชนตกใจหรือมีความกังวล อีกทั้งจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างมาก แต่เมื่อมีข่าวว่าจะดำเนินการในวันที่ 13-15 มกราคม ผมคิดว่าคงเป็นความตกใจของสหรัฐอเมริกา ก็เลยได้เป็นผู้เปิดเรื่องนี้มาเสียเอง ฉะนั้น การเปิดเรื่องนี้ขึ้นมาในฐานะที่ประเทศไทยดำเนินการข่าวลับอยู่แล้ว มีความไม่สบายใจ แต่ผมขอยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมายของการก่อการร้าย แต่การที่ผู้ก่อการร้ายมาใช้พื้นที่ในกรุงเทพฯดำเนินการ เพราะประเทศไทยมีความสงบมาก จึงเป็นเป้าหมายที่อ่อนนุ่ม ที่ทำให้ผู้ก่อการร้ายและผู้ที่ติดตามผู้ก่อการร้ายมาใช้จับความเคลื่อนไหว” พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าว


พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จุดร้ายที่จะเกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับทุกจังหวัดในประเทศไทย เกี่ยวกับกรุงเทพฯจังหวัดเดียว อีก 76 จังหวัดไม่เกี่ยวข้อง
 
และในกรุงเทพฯมีบางจุดเท่านั้นที่มีคนชาวอิสราเอลกับสหรัฐอเมริกา เช่น ถนนข้าวสาร ซึ่งมีชาวอิสราเอลมากที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งอันนี้คือเป้าหมาย ตนเป็นห่วงว่าคนไทยและชาวต่างประเทศที่จะมาเที่ยวในประเทศไทยจะไม่สบายใจ จึงขอให้สบายใจได้ว่า สถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่เราทุกคน แล้วบุคคลต่างๆ เหล่านี้ที่เข้ามาก่อการร้ายได้หลบออกไปหมดแล้ว


"นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในประเทศไทย เพราะมันกระทบกับการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างยิ่ง ตนได้สั่งการให้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม ติดต่อขอคุยกับผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐอเมริกาว่า คราวหน้าถ้าหากจะมีเหตุการณ์อะไรอย่างนี้อีก จะเปิดอะไรขึ้นมา ขอให้มันรัดกุมมากกว่านี้ ขอให้คุยกันเสียก่อน เห็นใจประเทศไทยบ้าง เพราะว่ามันกระทบต่างเศรษฐกิจของชาติ ไม่เพียงแต่เรื่องความมั่นคงเท่านั้น" พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้กลุ่มก่อการร้ายได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปกี่คนแล้ว พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ออกไปหมดแล้ว ไม่มีเหลือแล้ว

ถ้าอยู่ก็สามารถจับได้เป็นคนที่ 2 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้อิสราเอลแจ้งมาว่าจะมีเข้ามา 2 คน และอาจจะเข้ามาเพิ่มเติมอีก 2-4 คน ซึ่งเขาจับได้ว่ามันใช้อินเตอร์เน็ตติดต่อกัน อีกทั้งเขาสารภาพกับตำรวจแล้วว่า เขาตั้งใจเข้ามาทำงาน แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว เพราะทุกอย่างมันยกเลิกไปหมดแล้ว ส่วนความขัดแย้งระหว่างเฮซบอลเลาะห์กับประเทศอิสราเอลนั้น เฮซบอลเลาะห์เขาเชื่อว่า ชาตินี้ต้องแก้แค้นอิสราเอลให้ได้ เพราะเมื่อปี 2551 อิสราเอลไปฆ่าผู้นำขอเขาก่อน3


เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการออกมาเปิดข้อมูลของสหรัฐอเมริกาไม่มีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า
 
ไม่มี เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้เพิ่มกำลังมารักษาความปลอดภัยหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เพิ่มกำลังครับ เมื่อถามว่า ภายหลังการสอบสวนจะส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปประเทศใด พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ก็ต้องส่งไปประเทศอื่น ซึ่งอิสราเอลหรือสหรัฐอเมริกาอาจจะมาขอตัว เพราะอาจมีพันธสัญญาทางกฎหมาย หรืออาจะกลับไปตะวันออกกลางตนก็ไม่แน่ใจ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์