รัฐบาลวอนประชาชนมั่นใจศักยภาพหน่วยงานมั่นคง

          วันนี้ ( 15 ม.ค.) ภายหลังการประชุม ครม. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศแถลงร่วมกันถึงกระแสข่าวก่อการร้าย    โดยพล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า  ขณะนี้มีข่าวเกี่ยวกับบุคลคลต้องสงสัย หรือบุคคลที่อาจจะเป็นปัญหาเข้ามาในประเทศนั้น ตนขอชี้แจงว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ  หน่วยข่าวกรอง กระทรวงการต่างประเทศ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ทำงานติดตามสถานการณ์มาเป็นระยะ โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องออกมาบอกกล่าวว่า ช่วงนั้นช่วงนี้มีบุคคลต้องสงสัยเดินทางเข้าประเทศ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องติดตามดูแลพฤติกรรมต่างๆ ยืนยันว่ารัฐบาลและผู้ที่รับผิดชอบจะดูแลความสงบเรียบร้อยเต็มที่ ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง

พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มมีความเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 54 โดยได้รับการข่าวจากหน่วยมูซาส ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ติดตามข่าวได้อย่างแม่นยำ เรารู้ข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มการร้ายฮิซบัลเลาะห์ และติดตามอยู่ตลอด โดยที่ยังไม่ได้เข้าไปจับกุม เพราะถ้ายังไม่ปรากฎความผิดจับตัวไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เราจึงรอให้มีสัญญาณที่จะเกิดความผิดเสียก่อน โดยตกลงกับฝ่ายข่าวของประเทศอิสราเอล และสหรัฐฯว่าเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างเงียบสงบไม่ต้องแพร่งพราย เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนกและกังวลใจรวมทั้งกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศ

พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า  เมื่อมีข่าวว่าการดำเนินการจะเริ่มภายในวันที่ 13-15 ม.ค.นี้ คิดว่าเป็นความตกใจของสหรัฐฯ จึงต้องออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมายของการก่อการร้าย การที่ผู้ก่อการร้ายมาใช้พื้นที่ กทม.ดำเนินการ เพราะไทยมีความสงบมาก แต่ขอให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทยสบายใจได้ว่าสถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่

พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางการข่าวคนเหล่านี้จะเข้ามา 4-5 คนเพื่อเข้ามาแก้แค้นอิสราเอล  เพราะเมื่อปี 51 อิสราเอลไปฆ่าหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มเขาที่ประเทศซีเรีย แต่ปรากฎว่าเข้ามาในไทยเพียง 2 คน จับได้ 1 คน และตอนนี้จับได้หมดแล้ว  และได้ออกจากประเทศไทยไปหมดแล้ว และเพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก ตนได้โทรศัพท์ไปสั่งการให้พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ติดต่อทูตพูดคุยกับผู้ช่วยทหารสหรัฐฯว่า คราวหน้าถ้าหากจะมีเหตุการณ์อะไรอย่างนี้อีก จะเปิดเผยอะไรขึ้นมาขอให้รัดกุมมากกว่านี้ พูดคุยกันเสียก่อนเห็นใจประเทศไทยบ้าง เพราะมันกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติ ไม่ใช่เรื่องของความมั่นคงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือแจ้งให้เอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่างๆชี้แจงทำความเข้าใจในสถานการณ์และความถูกต้อง เพราะขณะนี้เกิดผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่มีการยกเลิกการจองทัวร์เป็นจำนวนมาก