เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มกราคม ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ว่า
ตนเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงโครงการพระราชดำริ โดยในฐานะที่รัฐบาลมีโครงการการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ทำเกี่ยวกับโครงการพัฒนาตามแนวทางพระราชดำริ ที่พระองค์ท่านทรงพระราชทาน เกี่ยวกับเรื่องป่า และน้ำ ทั้งนี้เน้นเรื่องการปลูกป่าตามหมู่ตามแนวชายแดน และได้ผลมาโดยตลอด โดยเฉพาะโครงการปิดทองหลังพระ ในส่วนของกองทัพบกจะสนับสนุนทุกส่วนราชการ และทุกโครงการ ที่ต้องมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง และให้ความร่วมมือด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ที่ต้องดูแลในการรักษาป่าร่วมกับประชาชน
ทั้งนี้ได้นำเสนอโครงการในส่วนของกองทัพบก เกี่ยวกับการปลูกป่าต้นและน้ำ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งเป็นโครงการ 4 ปี ตั้งแต่ 80 พรรษา ถึง 84 พรรษา พร้อมทั้งจะมีการประเมินผลทั้งเชิงปริมาณ และคุณภาพ ถึงการดำเนินการปลูกป่าต้นน้ำ ที่สามารถเจริญเติบโตได้โดยไม่ตาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับแนวทางการปลูกป่าจะใช้แนวทางของพระบาทเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ทั้งปลูกป่าในใจคน โดยปลูกป่าในวิธีเหมือนไม่ได้ปลูกโดยการเข้าไปถากถาง เพราะบางพื้นที่ให้มีการเจริญเติบโตทางธรรมชาติ ซึ่งหลัการทั้งหมดเป็นแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระราชทาน และในวันเสาร์นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานปิดทองหลังพระ จะเชิญนายกรัฐมนตรีไปเชียงราย และกองทัพบกจะเข้าไปร่วมการวางแผนในการปลูกป่า
ทั้งนี้ รัฐบาลจะดูแลในเรื่องการปลูกป่าทั้งประเทศ ซึ่งจะให้หน่วยวงานที่เกี่ยวข้อง ทุก กระทรวง ทบวง กรม เข้าไปร่วม ทั้งนี้จะใช้พื้นที่ตามแนวชายแดน อุทยาน พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม การท่องเที่ยว สิ่งสำคัญต้องพิจารณาร่วมกันว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
ที่สำคัญปลูกแล้วต้องให้มีการเจริญเติบโต ไม่ใช่ปลูกแล้วทิ้งหายไป ต้องมีคนดูแล โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงต้องเข้ามาดูแลแอน นิวเซ็นฯ