ฝุ่นตลบส.ส.บินหาแม้ว ตั้งแท่นปู2 เล็งปรับใหญ่ 7 กระทรวงสำคัญ

ภายหลังมีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)
 
ในช่วงตรุษจีนในราววันที่ 23 มกราคมนี้ เพื่อให้มีความเป็นเอกภาพในแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ จำเป็นต้องได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) มาอยู่ภายใต้การคุมของพรรคเพื่อไทย (พท.) และได้รับแจ้งจากพรรคชาติพัฒนา (ชพ.) ด้วยอาจขอปรับเปลี่ยนตัว นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากป่วย แพทย์ได้แนะนำให้พักผ่อน ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มกราคม นพ.วรรณรัตน์ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า มีปัญหาด้านสุขภาพ ป่วยเป็นโรคเส้นประสาทสมองอักเสบเฉียบพลัน ต้องเข้ารับการรักษาตัวทุกวัน ดังนั้น ทางแพทย์จึงแนะนำให้พักผ่อนเยอะๆ ตนต้องดูแลสุขภาพ ขอเอาเรื่องสุขภาพเป็นหลัก

เมื่อถามว่า ตกลงเรื่องความชัดเจนในตำแหน่งเป็นอย่างไร นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า "ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรค คงต้องพูดคุยกันอีกที ส่วนการจะปรับเปลี่ยนอย่างไร เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจเต็มในการพิจารณา"

"ยิ่งลักษณ์"อุบเงียบปรับครม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความชัดเจนในการปรับ ครม. โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์เอาแต่ยิ้มและเดินเลี่ยงที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามทั้งความชัดเจนในการปรับ ครม.ตำแหน่งต่างๆ รวมไปถึงกระแสข่าวจะมีการแลกกระทรวงกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนา

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 14.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่เพิ่งถูกนายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โจมตีการทำงานพร้อมเรียกร้องให้ปรับพ้นตำแหน่ง ร่วมเดินทางมาด้วยในรถตู้คันเดียวกัน โดยนายวรวัจน์เปิดเผยว่า ตนไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีเรื่องนโยบายแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นประถม ที่ทำเนียบรัฐบาลและไม่มีรถจึงขออาศัยติดรถนายกรัฐมนตรีมาสภาด้วย ระหว่างทางพูดคุยเรื่องทั่วไป ไม่มีเรื่องปรับ ครม.เรื่องนี้ไม่เคยคุยกัน ถือเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ และนายกรัฐมนตรีไม่ได้สอบถามตนถึงการทำงานในกระทรวงเพราะจริงๆ แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร

"ปู"รับสนใจ"เกษตร"

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ระบุกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในการประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 10 มกราคม ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ และความเป็นไปได้ในการดึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับคืนมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้แก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ตอบกับ ส.ส.ว่า "คำถามนี้ยากมาก และจำเป็นที่จะต้องปิดไมโครโฟนในการพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้เนื้อหาของการพูดคุยนั้นหลุดออกไปจากห้องประชุมพรรค ซึ่งคำถามเรื่องการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลถือเป็นโจทย์ทางการเมืองที่ยากมาก แต่น่าสนใจอย่างยิ่ง"


ฝุ่นตลบส.ส.บินหาแม้ว ตั้งแท่นปู2 เล็งปรับใหญ่ 7 กระทรวงสำคัญ

"ตือ"โต้ไม่มีข่าวถูกยึด

ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษา ชทพ. กล่าวถึงกรณีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมาอยู่ภายใต้การคุมของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่มีกระแสข่าวดังกล่าว เพราะตอนนี้คนที่พูดเพราะอยากจะเป็น ส่วนคนที่มีอำนาจปรับจะไม่พูด คนอยากเป็นเลยแสดงความเห็นกันใหญ่ เท่าที่ดูแล้วน่าจะเป็นข่าวที่ออกมาจาก พท. ส่วนกรณีที่มีการอ้างอิงว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้า ชทพ.ต่อรองขอให้ยืดเวลาการปรับ ครม.ออกไป เพื่อจะรอปรับใหญ่ไปครั้งเดียวนั้น นายบรรหารเห็นว่าควรปรับ ครม.ในช่วงที่บ้านเลขที่ 111 ออกมาแล้ว จะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม และช่วงนั้นรัฐบาลทำงานมาได้ประมาณ 9 เดือน เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ให้ปรับใหญ่ครั้งเดียวไปเลยดีกว่าไม่ต้องทำเป็นขยักๆ

ฝุ่นตลบส.ส.บินหา"แม้ว"

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า สำหรับการปรับ ครม.ที่มีแนวโน้มว่าจะมีการพิจารณาภายในเดือนมกราคมนี้นั้น ได้มีการเตรียมบัญชีรายชื่อให้กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งที่ผิดหวังจาก ครม. "ยิ่งลักษณ์ 1" และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รับปากไว้ว่าจะพิจารณาในรอบหลัง แต่ยังไม่มีการระบุตำแหน่ง อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายพ้อง ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายนพคุณ รัฐไผท ส.ส.เชียงใหม่ โดย ส.ส.ที่มีรายชื่อบางส่วนจะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในเร็วๆ นี้ โดย ส.ส.กลุ่มนี้ได้ส่งหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตให้กับเลขานุการส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้รวบรวมเพื่อจัดการเรื่องการเดินทางและที่พักให้แล้ว

รอ111พ้นโทษปรับใหญ่

แหล่งข่าวกล่าวว่า การปรับ ครม.รอบนี้ถือเป็นการบริหารการเมืองภายในพรรคคือการตอบแทนให้กับกลุ่มคนที่ทุ่มเททำงานให้พรรครวมถึง ส.ส.ที่มีความอาวุโส บางส่วนตอบแทนด้วยตำแหน่งประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ไปแล้ว จากนั้นคาดว่าจะมีการปรับใหญ่อีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งรวมถึงเก้าอี้รัฐมนตรีในสายเศรษฐกิจด้วย เพราะเป็นเวลาที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทยพ้นโทษตัดสิทธิทางการเมืองแล้ว โดยน่าจะมีบุคคลที่ได้รับการพิจารณาเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี 3-4 ราย อาทิ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นคนสนิทของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยและน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นต้น

เล็งปรับใหญ่7เก้าอี้สำคัญ

รายงานข่าวจากแกนนำรัฐบาลแจ้งว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะเป็นการปรับใหญ่ประมาณ 7 กระทรวง โดยในส่วนที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวประกอบด้วย 1.พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงคมนาคม 2.นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.กระทรวงศึกษาธิการ 3.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 4.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.กระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องลุกจากเก้าอี้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงการคลัง แทน 5.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง 6.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) อยู่ระหว่างเจรจาขอแลกเก้าอี้กับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เพื่อดึงกระทรวงเกษตรฯมาคุมเอง สร้างความเป็นเอกภาพในการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ 7.กระทรวงอุตสาหกรรมที่เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการฯ จากพรรคชาติพัฒนา (ชพ.) ขอวางมือ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม การปรับตำแหน่งใน7กระทรวง ยังจะต้องรอการสรุปอีกครั้งจากนายกฯและแกนนำพรรค

"สุวัจน์"หาคนภาพพจน์ดี

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า นพ.วรรณรัตน์ที่ไม่สบายเพราะทำงานหนักมาตลอด ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ 3 ปี และมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหรรม ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาอุทกภัยทำให้ต้องทำงานหนักมากขึ้น ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ จากการสอบถามทราบว่าเป็นโรคไวรัสที่มากับความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ หาก นพ.วรรณรัตน์ไม่สามารถปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพได้ ทางพรรคชาติพัฒนาจะต้องสรรหาบุคคลอื่นมาสานงานต่อ ส่วนใครจะมาสานงานต่อคงต้องให้ นพ.วรรณรัตน์ตัดสินใจเอง ต้องเป็นคนที่มีความสามารถ คนที่ได้การยอมรับ มีความรู้ความสามารถและมีภาพพจน์ที่ดี

กก.ประเมินส่งคะแนน

นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการประสานนโยบายพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีหน้าที่ในการประเมินการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะกรรมการกำลังพิจารณาการทำงานของรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยก่อนที่จะส่งผลการประเมินไปให้แกนนำพรรคเพื่อไทยรับทราบและแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งในส่วนของรัฐมนตรีพรรคนั้น การให้คะแนนจะดูจากการเข้าร่วมประชุมพรรค ประชุมสภา ว่ามีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน ทำหน้าที่ขาดตกบกพร่อง รวมไปถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นของ ส.ส.ต่อการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีคนนั้นๆ ด้วย ส่วนการตัดสินใจว่ารัฐมนตรีคนใดจะถูกปรับเปลี่ยนหรือไม่อยู่ที่นายกรัฐมนตรีซึ่งการทำงาน 5-6 เดือนที่ผ่านมา นายกฯคงจะประเมินออก


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์