10 ม.ค.55 นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า
ขณะนี้ปัญหาราคายางตกต่ำจากยุคของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลมาต่อเนื่อง 4 เดือนแล้ว โดยจากราคาในช่วงยุคพรรคประชาธิปัตย์ กิโลกรัมละ150 บาท ปัจจุบันลดลงเหลือ 80 บาท เพราะรัฐบาลไม่จริงใจและจริงจังในการแก้ปัญหา ซึ่งจากเดิมที่มีการทำความตกลงกัน 3 ประเทศ คือไทย มาเลเซีย และอินโดนิเซีย ในฐานะประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกและส่งออกมาสุดในเรื่องการต่อรองราคาและสต๊อก ซึ่งจะทำให้เกษตรกรขายได้ราคาเหมือนการรวมตัวของกลุ่มประเทศโอเป็ค แต่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่มนี้ และรัฐบาลไม่เคยหยิบยกคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติมาต่อรองราคา ทำให้พ่อค้าคนกลางกดราคา
“แต่ที่สำคัญอย่างมากคือเมื่อปลายปี 2554 นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปประเทศจีนเพื่อลงนามขายยางพาราล่วงหน้าให้บริษัทในจีนจำนวน 1.8 แสนตัน ในราคากิโลกรัมละ 105 บาท โดยมีการทำแอ็มโอยูว่าจะขายให้อีก 3 แสนตันด้วย และทราบว่ามีความบังเอิญที่ไปพบกับบริษัทซื้อขายยางของไทยที่เดินทางไปพอดีด้วย
ทั้งนี้ยาง 1.8 แสนตันเท่ากับร้อยละ 16 ของปริมาณส่งออก ซึ่งที่ผ่านมาไม่ว่ารัฐบาลไหนจะขายยางล่วงหน้า จะไม่มีการกำหนดราคา
เพราะจะเอาราคาตลาดโลกเป็นเกณฑ์ เมื่อกำหนดราคาไว้ที่ 105 บาท พ่อค้าคนกลางจะได้โอกาสกดราคาไม่ให้เป็นตามราคาตลาดโลก และโดยปกติแล้วช่วงปลายปี-เดือนเมษายนของทุกปี เป็นช่วงที่ราคายางขึ้นสูง เพราะกรีดได้น้อย แต่รัฐมนตรีกลับกลับไปเซ็นกำหนดราคาขายไว้แล้ว
ดังนั้นขอให้รัฐบาลพิจารณาข้อสอนเกษตรกรที่ต้องการที่กิโลกรัมละ 120 บาท และแก้ปัญหาให้ชาวสวนยางเหมือนกับกลุ่มแท๊กซี่และรถบรรทุกด้วย อย่าคิดว่าภาคใต้ไมมีคะแนนเสียงแล้วไม่สนใจ ทั้งนี้รัฐบาลสามารถนำภาษีที่เก็บจากเกษตรกรผู้ขายยางซึ่งมีอยู่ 2 หมื่นล้านบาทเศษมาค้ำประกันราคาได้โดยออกเป็นมติครม.” นายถาวร กล่าว