"อภิสิทธิ์" ระบุรัฐบาลทำนโยบายสับสน ย้ำตอนหาเสียงทำให้ประชาชนเข้าใจค่าครองชีพต่ำลง ยกเลิกกองทุนน้ำมัน มีปัญหาไปหมด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel เกี่ยวกับการปิดประท้วงการจราจรที่ หน้าบริษัท ปตท.สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต และลานพระบรมรูปทรงม้าโดยผู้ประกอบการด้านการขนส่ง จากการที่รัฐบาลขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันมาเป็นเดือนแล้ว แต่แปลกใจว่า เหตุใดจึงไม่มีการปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาคำตอบให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องนี้ รัฐบาลมีนโยบายที่สับสนมาก ในขณะที่ตอนหาเสียง
นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า จะกระชากค่าครองชีพ ซึ่งในความเข้าใจของประชาชนตอนนั้นคือ
กระชากค่าครองชีพให้ต่ำลง และมีความพยายามที่จะบริหารจัดการยกเลิกกองทุนน้ำมัน ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่า ราคาพลังงานจะลดลงมาก ต่อมาตอนเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ๆ ก็ดำเนินการในเรื่องที่สร้างปัญหาให้ตัวเองมากขึ้น เช่น การอุ้มราคาน้ำมันเบนซิน ทำให้เกิดหนี้สินในกองทุนน้ำมัน แล้วตอนนี้ ก็จะเลิกอุดหนุนทุกอย่าง เมื่อประชาชนรายได้ดีขึ้นจากนโยบายด้านอื่นของรัฐบาล เช่นการเพิ่มค่าแรง การเพิ่มเงินเดือน และราคาข้าว แต่เมื่อลงมือปฏิบัติจริงแล้วจะเห็นว่า นโยบายเพิ่มรายได้นั้นกลับไม่เดินหน้า
"ค่าแรงก็ไม่ใช่300บาท เงินเดือนก็ไม่ใช่หมื่นห้า จำนำข้าวก็มีปัญหาเยอะแยะไปหมด แต่นโยบายที่บอกว่าจะเริ่มปล่อยให้พลังงานแพงขึ้นกับเดินเลย ความจริงไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนี้ที่มีความเดือดร้อนในวันนี้ เดือนนี้ค่าไฟกำลังจะขึ้น แอลพีจีก็กำลังจะขึ้น เอ็นจีวีก็กำลังจะขึ้น แล้วก็การต่ออายุในการยกเว้นภาษีน้ำมันดีเซล รัฐบาลก็ทำท่าจะต่อแค่เดือนกุมภาพันธ์ คือเดือนหน้าราคาน้ำมันก็จะสูงขึ้นอีก ค่าครองชีพก็จะสูงขึ้น รัฐบาลมีคำตอบให้เฉพาะบางกลุ่ม เช่น เอ็นจีวี แอลพีจี ก็บอกว่า ผู้ประกอบการรถสาธารณะจะมีบัตรเครดิตให้ ซึ่งก็มีปัญหาอีก"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลทำโครงการอะไรก็มักเกิดปัญหาเสมอ เหมือนกรณีคูปองเครื่องใช้ไฟฟ้า
ตั้งแต่การคัดสรรผู้เข้าร่วมโครงการ การใช้คูปอง ที่ไม่มีความชัดเจน สุดท้าย ก็ทำให้เห็นแต่ปัญหาค่าครองชีพที่กำลังสูงขึ้น การไม่ตอบโจทย์คนอีกจำนวนมากโดยเฉพาะคนยากคนจน ทิศทางภาพรวมเรื่องพลังงานก็ไม่แน่นอนว่าจะส่งเสริมการใช้เอ็นจีวีหรือไม่ หรือจะส่งเสริมพลังงานทดแทนหรือไม่อย่างไร
"ผมเอง ผมมองเห็นแล้วว่า ปัญหานี้กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า ผมก็ไม่สนับสนุนการประท้วงใดๆ ที่มีการปิดถนน เพราะเดือดร้อนคนอื่น ไปละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น แต่ผมก็ได้เตือนรัฐบาลมาตั้งแต่ต้น เพราะผมเห็นอาการของรัฐบาลแล้วว่า รัฐบาลไม่ส่งสัญญาณให้ชัดในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินดูแลความเดือดร้อนของประชาชน เหมือนตอนน้ำท่วม ใครอยู่เฉย รัฐบาลก็เฉย ใครเอาคนมาประท้วงรัฐบาลก็ฟัง ถ้าทำอย่างนี้ทุกคนก็ต้องประท้วงก่อน แล้วรัฐบาลถึงฟัง จนเวลานี้จะกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว"