วันที่ 8 ม.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มนปช.
กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานเสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตั้งคณะกรรมการหนึ่งคณะเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญแทนการเลือกตั้งส.ส.ร.ว่า ถือเป็นอีกข้อเสนอหนึ่ง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องยึดประชาชนเป็นหลักจึงจะประสบความสำเร็จ ที่สำคัญหากไม่ยึดประชาชนก็จะเป็นช่องว่างให้ถูกทำลายในวันใดวันหนึ่งได้ แต่ถ้ายึดประชาชนใครก็ขัดขวางไม่ได้ โดยเฉพาะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยภูมิต้านทานเชิงอำนาจต่ำ แต่ภูมิต้านทานโดยประชาชนสูง ดังนั้นต้องยึดแนวทางเอาประชาชนเป็นเกราะ ส่วนตัวจึงเห็นว่าควรเปิดให้ประชาชนเลือก ส.ส.ร.โดยตรง เมื่อได้แล้วระหว่างที่มีการยกร่างก็รับฟังความคิดเห็นของประชาชนควบคู่ไปด้วย เมื่อแล้วเสร็จก็จัดให้มีประชามติ
นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้มีส.ส.ร.นั้น
ขณะนี้ภาคประชาชนเสนอไปแล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าส.ส.คงจะเสนอต่อ เนื่องจากเป็นนโยบายคาดว่าภายในเดือนม.ค.จะชัดเจน ส่วนกรณีที่มีการจุดประเด็นแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเป็นเงื่อนไขนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 แต่มีผู้พยายามโยงให้เป็นเรื่องเดียวกัน ความจริงเนื้อหาสาระกฎหมายมาตรานี้ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่ผู้มีอำนาจใช้อำนาจมิชอบนำมาทำลายผู้ปฏิบัติทางการเมือง โดยเฉพาะในรัฐบาลชุดที่แล้ว
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนที่คณะกรรมาธิการปรองดอง ซึ่งมีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยเป็นประธาน
เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และคู่ขัดแย้งหลายฝ่ายมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อหาแนวทางสร้างความปรองดองนั้นก็เป็นเรื่องดี ทุกคนมีสิทธิที่จะเห็นต่างกันได้แต่ควรเรียนรู้อยู่ร่วมกันได้ โดยไม่นำความแตกต่างมาเป็นความแตกแยก ถึงขั้นทำลายล้างกันเช่นในอดีต