“มาร์ค”ชี้รัฐทุ่ม 3.5 แสนล้านไร้ผล เรียกความเชื่อมั่นไม่ได้ หลังไม่มีคำตอบเรื่องการบริหารจัดการน้ำ
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่จะใช้เงิน 2.7 ล้านล้านบาท ในการวางระบบน้ำและสร้างอนาคตให้กับประเทศ พร้อมกับเตรียมออกพ.ร.ก.กู้เงินอีก 3.5 แสนล้านบาทว่า ต้องดูรายละเอียดการกำหนดโครงการ การระบุตัวเลขวงเงินในภาพรวม โดยที่ไม่ได้มีการขอความเห็นจากผู้ที่มีบทบาทการบริหารจัดการลุ่มน้ำในแต่ละท้องถิ่น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
ดังนั้นหากรัฐบาลมีแผนที่ชัดเจนควรเร่งนำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อรับฟังความเห็น และทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาการผลักดันโครงการตามมา การใช้เงินเป็นตัวตั้งไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหา เพราะการใช้ยอดเงินเป็นตัวนำยังไม่ใช่หลักประกันที่จะทำให้นักลงทุน และประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมอีก เพราะการเรียกความเชื่อมั่นอยู่ที่ความชัดเจนในสิ่งที่รัฐบาลจะทำและบริหารจัดการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเตือนรัฐบาลว่าไม่ควรมุ่งแต่ที่จะลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวจนกระทั่งพยายามทุกทางที่จะหาเงินเพื่อมาใช้จ่าย ทั้ง ๆ ที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจต้องทำควบคู่ไปกับการป้องกันน้ำท่วม แม้ว่าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจจะอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ หรือสูงกว่านั้น แต่ไม่ได้สะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน เพราะการใช้จ่ายเงินเป็นการฟื้นฟูชีวิตหลังน้ำลด ยังไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมด้วยซ้ำ เป็นเพียงการรักษาสถานภาพ ไม่ใช่การทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่จะมีเงินในการซื้อเครื่องใช้จำเป็นที่เกิดการหมุนเวียนต่อระบบเศรษฐกิจ ในขณะที่ประชาชนอาจมีหนี้สินเพิ่ม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ.ที่ระบุว่า ศปภ.ไม่มีหน้าที่ดูแลปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ ทั้ง ๆที่ควรต้องเริ่มแก้ไขเพราะเป็นปัญหาของคนไทย อีกทั้งจะต้องปรับปรุงระเบียบที่ส่งผลกระทบ ทำให้ชาวใต้อาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในส่วนนี้ เช่น กรณีการลดหย่อนภาษีเรื่องซ่อมบ้าน ซ่อมรถ เพราะจำกัดว่าต้องเป็นน้ำท่วมก่อนสิ้นปี ทำให้ภาคใต้ไม่ได้รับสิทธิ์ตรงนี้ ซึ่งตนหวังว่าเป็นเรื่องความบกพร่องในการทำงาน ความจงใจที่เลือกปฏิบัติที่เคยเกิดขึ้นในยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี