เมื่อวันที่ 3 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลู สกาย ชาแนล
ถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาฟ้องร้องต่อศาลโลก ให้ตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ว่า รัฐบาลได้ยื่นคำให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว ส่วนการจะไปให้ถ้อยแถลงด้วยวาจา ก็มีความสำคัญ ซึ่งต้องเตรียมตัวให้ดี มีการซักซ้อม ดำเนินการให้เป็นเอกภาพ โดยระหว่างนี้ ทุกก้าวย่างของไทยที่เกี่ยวกับกัมพูชา ทั้งการพูดเจรจา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) และผู้สังเกตการณ์ของอาเซียน รัฐบาลไทยต้องระมัดระวังเอาใจใส่อย่าให้การกระทำใดๆ ถูกตีความในลักษณะที่จะเป็นคุณกับกัมพูชาในคดี และในทางกลับกัน อะไรที่จะสามารถเสริมแนวทางของเราในการต่อสู้คดี ก็ต้องทำ อย่ามองว่ายื่นเอกสารไปแล้ว เตรียมไปต่อสู้ในศาลโลกแล้วเพียงพอ แต่อะไรที่เกิดขึ้นในขณะนี้หรือเป็นการพูดจาแลกเปลี่ยนก็มีความหมายทั้งสิ้นต่อคำตัดสินของศาล และสุดท้ายก็ต้องคิดว่าศาลโลกตัดสินออกมาแล้วจะเป็นที่ยุติแค่ไหน อย่างไร และแนวทางการปฏิบัติจะเป็นอย่างไร ถ้าเราชนะ กัมพูชาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเราแพ้ เราจะมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่ไม่ค่อยได้เห็นกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ แสดงจุดยืนหรือดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่่องจากจะมีการเปลี่ยนแปลงองค์คณะผู้พิพากษาศาลโลกในเดือน ก.พ.นี้ และเพื่อไม่ให้คดีดังกล่าวข้ามการเปลี่ยนแปลงองค์คณะ จึงคาดการณ์กันว่าภายในเดือน ก.พ.นี้ ศาลโลกจะมีคำตัดสินเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา