เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ระบุว่ารัฐบาลจะไม่เป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ได้พูดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า ทำได้ 3 ภาคส่วน คือรัฐบาล ประชาชน และ ส.ส. ซึ่งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าภาพเสมอไปเพราะเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประชาชนก็เข้าใจได้ว่ารัฐบาลก็ทำ
เมื่อถามว่ามีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะไม่ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ประกบกับร่างรัฐธรรมนูญที่ภาคประชาชนส่งไปก่อนหน้านี้หรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือในรายละเอียดกัน แต่ส่วนตัวยืนยันที่มาของ ส.ส.ร.ว่าควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนจังหวัดละ 1 คน รวม 77 คน และให้ 77 คนไปเลือกผู้ทรงคุณวุฒิอีก 22 คน รวมเป็น 99 คน ทั้งนี้โดยส่วนตัวเห็นว่าควรรอไปก่อนอีก 8 เดือนเพื่อให้รัฐบาลมีผลงานทั้งเรื่องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ยาเสพติด และเรื่องอื่นๆ ก่อน ส่วนที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกันในพรรคเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย และแสดงว่าพรรคเพื่อไทยมีความเป็นประชาธิปไตยจึงมีความขัดแย้งกันได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยืนยันว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พวกสุ่มสี่สุ่มหกชอบพูดให้เกิดความสับสน
พรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอแก้ไขมาตรา 112 ใครเสนอตนจะเป็นคนคัดค้านเอง เมื่อถามว่าจะพูดคุยกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำ นปช. และต้องการให้แก้ไขมาตรา 112 ได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คุยกันได้ ขนาดสหรัฐอเมริกากับจีนแดงทะเลาะกันยังดีกันได้เลย
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช. ระบุว่าจะเรียกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
เข้าชี้แจงข้อมูลการสั่งสลายชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า ไม่ขอพูดถึง กลัวท่านดุเอา แต่การที่ ป.ป.ช.จะเรียกนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพมาชี้แจงไม่ถือว่าช้าไป อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทาง บชน. ไม่จำเป็นต้องส่งสำนวน 91 ศพ มาให้ตนดูแล้ว ให้ส่งไปให้อัยการ และให้อัยการสั่งไปยังศาลได้เลย เดี๋ยวจะหาว่าตนเข้าไปแทรกแซง และจากนี้ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็คงต้องไปศาลบ่อยขึ้น