กางปฏิทินการเมืองปีงูใหญ่ เสียวทุกเดือน!!!
การเมืองปี 2555 ซึ่งตรงกับปีมะโรง หรือ "งูใหญ่" ตามปีนักษัตร ไม่ต้องอาศัยคำทำนายของ "ด.ช.ปลาบู่" ที่ลือลั่นในโซเชียลมีเดีย ก็คาดการณ์ได้ไม่ยากว่าจะเป็นอีกปีที่การเมืองวุ่นวาย-วกวน
เพราะเป็นปีแห่งการแก้ไขกฎหมาย และการขึ้นโรงขึ้นศาลของนักการเมืองในคดีความต่างๆ
แถมยังเป็นความวุ่นวายในลักษณะ "เกมบันไดงู" ใครตาดี-ก็ได้ใกล้เป้าหมายแบบก้าวกระโดด ใครตาร้าย-ก็ตกบันได ต้องตั้งต้นความพยายามกันใหม่...
มกราคม เริ่มต้นปีด้วยการเปิดสภาถกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 วงเงิน 2.38 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 วันที่ 4-6 มกราคม ซึ่งฝ่ายค้านจ้องใช้เป็นเวที "อภิปรายย่อยๆ" แต่ด้วยรัฐบาล มี "พวกมาก" น่าจะใช้ 300 เสียงผ่านกฎหมายงบประมาณ และลดปัญหา "รัฐบาลเงินฝืด" ไปได้ไม่ยาก
ส่วนประเด็นร้อนว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) และคนเสื้อแดงตั้งท่าโละมาตั้งแต่ "ปีมะโว้" มาถึง "ปีมะโรง" เชื่อว่าเอาแน่ เมื่อ ส.ส.แดงเตรียมเสนอญัตติขอแก้ไขมาตรา 291 เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อเปิดทางให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ชุด 3 ขึ้นมายกร่าง รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
แม้ยังไม่แน่ชัดว่า "เครือข่ายนายใหญ่" จะชง กี่ร่าง มีใครเป็นเจ้าภาพหลัก ระหว่างรัฐบาล หรือพรรค หรือคนเสื้อแดง แต่ที่แน่ๆ ส.ส.ร. 3 ต้องคลอดก่อน 23 สิงหาคม 2555 เพื่อให้เป็นไปตามน้ำคำ "ยิ่งลักษณ์" ที่แถลงไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน-ต้องทำในขวบปีแรกของรัฐบาล
ในช่วงเดียวกันยังมีแนวโน้มการปรับ ครม. "ยิ่งลักษณ์" เป็นครั้งแรก โดยรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายกระเด็นตกเก้าอี้ล้วนอยู่ในโควตา พท. อาทิ "กฤษณา สีหลักษณ์" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี "ภูมิ สาระผล" รมช.พาณิชย์ "บุญรื่น ศรีธเรศ" รมช.ศึกษาธิการ ฯลฯ ส่วนรัฐมนตรีโควตาพรรคร่วมไม่น่าจะมีการขยับ
กุมภาพันธ์ คณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) หรือ ปคอป. ที่มี ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธาน จะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาแยกแยะคดีทางการเมือง นำไปสู่การทบทวนข้อหา-ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ส่วน คอป.จะออกรายงานฉบับที่ 3 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกจังหวะก้าวสำคัญในการสร้างความปรองดอง
มีนาคม-เมษายน คาดว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 และ 3 ซึ่งต้องจับตาการเดินเกมต้านทั้งในและนอกสภา เพื่อ ไม่ให้ "มรดกคณะปฏิวัติ" ถูกทำลายลงง่ายๆ
นอกจากนี้การประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติจะสิ้นสุดลงในวันที่ 18 เมษายน จึงน่าสนใจว่านอกจากรัฐธรรมนูญแล้ว พท.จะผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อนิรโทษกรรมผู้ได้ผลกระทบจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หรือไม่ รวมถึงการตรา พ.ร.บ.กู้เงินหลายฉบับเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย
ในช่วงเดียวกัน ยังเป็นเวลาเขย่าทัพ-จัดแถวข้าราชการกลางปี ทั้งในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด และแม่ทัพนายกองในเหล่าทัพต่างๆ เชื่อว่าฝุ่นควันจาก "นักวิ่งเต้น" ทั้งข้าราชการสายเก่า-สายใหม่จะตลบอบอวลทั้งเดือน
พฤษภาคม-มิถุนายน เป็นอีกช่วงที่แวดวงการเมืองคึกคัก เพราะถ้าเป็นไปตามปฏิทิน พท.จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. 3 ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามมาตรา 291 ที่ได้รับการแก้ไข ทั้ง 77 อรหันต์ที่มาจากการ เลือกตั้งทางตรง และ 22 หรือ 27 อรหันต์ที่มาจากภาคนักวิชาการ
อีกไฮไลต์คือ 31 พฤษภาคม "สมาชิกบ้านเลขที่ 111" จะหลุดพันธนาการ-พ้นคุกการเมืองหลังถูกจองจำนาน 5 ปี จากกรณีตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไทยรักไทย พร้อมตัดสิทธิคณะกรรมการบริหาร เมื่อปี 2550 เชื่อว่าจะทำให้สมการการเมืองเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ "ยิ่งลักษณ์" ต้องจัดโผ ครม.อีกรอบ
กรกฎาคม สิ้นสุดอายุขัยของ คอป. น่าสนใจว่าจะมีการเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์เมษายน-พฤษภาคมปี 2553 ที่คณะอนุกรรมการ คอป.ชุด สมชาย หอมลออ กำลังจัดทำอยู่หรือไม่ และในรูปแบบไหน
และจะมีของขวัญชิ้นพิเศษเซอร์ไพรส์ "พ.ต.ท. ทักษิณ" เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ 63 วันที่ 26 กรกฎาคมหรือไม่
สิงหาคม เปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งฝ่ายค้านสามารถยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลได้
จับตาการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ที่คาดว่า พท.จะอัดนโยบายประชานิยมเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ยังเป็นเดือนเกิดของผู้ยิ่งใหญ่- นายทหารหลายคน โดยในจำนวนนี้มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมอยู่ด้วยในวันที่ 26 สิงหาคม
กันยายน-ตุลาคม เป็นฤดูแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ ซึ่งมีบิ๊กข้าราชการเกษียณอายุราชการหลายตำแหน่งสำคัญ อาทิ ปลัดกระทรวงกลาโหม โดยมี "พล.อ. ชาติ ทัตติ" รองปลัดกระทรวง กับ "พล.อ.คณิต สาพิทักษ์" ประธานคณะที่ปรึกษากระทรวง เป็นคู่แคนดิเดตหลัก ส่วนเก้าอี้ ผบ.ทอ. "พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" ผู้ช่วย ผบ.ทอ. เป็นเต็ง 1 เนื่องจากถูกวางตัวไว้เป็น ผบ.ทอ.ตั้งแต่ต้น ส่วนจะพลิกโผหรือไม่ ต้องติดตาม ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. แม้จะมีอายุราชการถึงปี 2557 แต่อาจถูกโยกไปอยู่ส่วนอื่น
ส่วนกระทรวงมหาดไทย มีซี 11 และซี 10 เกษียณเพียบ ทั้ง "พระนาย สุวรรณรัฐ" ปลัดกระทรวง "อนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ" อธิบดีกรมที่ดิน "อุดม พัวสกุล" อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง "วีระยุทธ เอี่ยมอำภา" อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น "นายสุกิจ เจริญรัตนกุล" อธิบดีกรมการปกครอง นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด เกษียณรวมกว่า 20 ตำแหน่ง โดยจะมีการโยกย้ายอีกครั้งไม่น้อยกว่า 40 ตำแหน่ง
พฤศจิกายน-ธันวาคม น่าสนใจว่าจะมีการปรับ ครม.อีกรอบหรือไม่ หลังทำงานมาเกือบปีครึ่ง โดยเฉพาะการให้บรรดา "ตัวจริง" กลับมาทำงานการเมืองแทน "ตัวสำรอง"
นอกจากนี้ตลอดปี 2555 จะมีคดีความ ซึ่งคนการเมืองสำคัญๆ จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นคดี 91 ศพ ที่รัฐบาล พท.อยากจะให้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" และ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ตกเป็น ผู้ต้องหา จะได้มีเหตุผลในการออก พ.ร.บ.ปรองดอง โดยระหว่างนั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็เดินหน้าไต่สวนคดีลักษณะ ดังกล่าวเช่นกัน
คดีถอดถอนรัฐมนตรีและ ส.ส.ที่ในกำมือของ ป.ป.ช. หลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดี "พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" รมว.ยุติธรรม และ 7 ส.ส.พท.จุ้นแจกถุงยังชีพและของบริจาคช่วงน้ำท่วม คดี "ยิ่งลักษณ์" และ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศคืนพาสปอร์ตให้อดีตนายกฯ โดยมิชอบ
ส่วนคดีตีความคุณสมบัติ ส.ส.ของ จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท.และแกนนำคนเสื้อแดง กรณีที่ไม่ไปเลือกตั้ง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศาลรัฐธรรมนูญ ก็คาดว่าจะพิจารณาเสร็จสิ้นในปีนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีคดีชุมนุมการเมืองทั้งเสื้อเหลือง- เสื้อแดง ที่น่าจะมีคำตัดสินเพิ่มเติมในปีนี้
ในปีงูใหญ่นี้ "รัฐบาลนารี" จึงเต็มไปด้วยบททดสอบโหดหิน ซึ่งรอพิสูจน์ฝีมือ "ธิดาคนสุดท้าย" ของตระกูล "ชินวัตร" ในตำแหน่ง "นายกฯคนที่ 28" ว่าจะสามารถสลัดฉายา "รัฐบาลทักษิณส่วนหน้า"
หรือจะเดินหน้าสานฝัน-พา "คนลี้ภัย" กลับบ้านเกิดได้สำเร็จไปอีกขั้นตอนหนึ่ง!!!!