วันที่ 30 ธันวาคม นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
แถลงข่าวส่งท้ายปีตอกย้ำรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำเพื่อพวกพ้องมากกว่าพี่น้องประชาชน ว่า การดำเนินงานของรัฐบาลพิสูจน์ว่าทำเพื่อครอบครัวชินวัตร ครอบครัวดามาพงศ์และผู้ใกล้ชิด มากกว่าเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งจะเห็นได้จาก 7 เหตุการณ์ในรอบ 4 เดือน ได้แก่
1.วันที่ 7 สิงหาคม 2554 นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ได้ภาษีคืนจากกรมสรรพากรทีเดียว 5,645 ล้านบาท
2.วันที่ 11 สิงหาคม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ขณะนั้นถูกวางตัวให้คาดการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการไปพูดกับญี่ปุ่นขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี ได้วีซ่า ทั้งที่กฎหมายญี่ปุ่นระบุว่า ใครก็ตามติดคุก 1 ปีไม่สามารถเข้าประเทศได้อัตโนมัติ
3.วันที่ 30 สิงหาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งแกนนำคนเสื้อแดงมาทำงานด้านการเมือง ซึ่งเป็นการตอบแทนแก่กลุ่มแกนนำที่ลงแรงในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลชุดที่แล้ว
4.วันที่ 7 กันยายน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองและตรวจสอบข้อเท็จจริง มีบุคคลทูลเกล้าฯถวายฎีกาให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็อย่างที่เรียนว่าใครจะเป็น ครม.ชุดนี้ได้ต้องใจกล้าบ้าบิ่น และต้องยินดีที่จะสละชีวิตถวายหัวให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงจะมีสิทธิเข้ามาลิ้มลองเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้
5.วันที่ 26 กันยายน อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกาคดีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และพวก ในคดีถือหุ้นชินคอร์ป ซึ่งก็น่าสังเกตว่าประเด็นต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
6.วันที่ 19 ตุลาคม แต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ สมหวังในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้งที่เหลืออายุราชการเพียงปีเดียว
7.วันที่ 26 ตุลาคม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่ผิดมติของกระทรวงการต่างประเทศ