ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวิไลวรรณ สมความคิด มารดาของนายวีระ สมความคิด
ได้เดินทางมาที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าพบนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ จากนั้นกล่าวว่า ตนมาเข้าพบนายสุรพงษ์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือลูกชาย เรื่องอภัยโทษ เพราะอยากให้เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็ว แต่เพิ่งรู้จากนายสุรพงษ์ว่า ทางการกัมพูชามีข้อเสนอให้แลกตัวนักโทษลักษณะกลุ่ม ซึ่งนายสุรพงษ์ ก็ขอเวลาเพื่อหาทางว่าจะช่วยเหลือได้ด้วยวิธีใด และรับปากแล้วว่าจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งตนก็เชื่อมั่นและหวังว่าจะหาหนทางช่วยเหลือทั้งสองคนได้
“สุรพงษ์”เยือนเขมรแนะนำตัวในฐานะรมว.ตป. บรรยากาศหารือ“ฮอร์ นัมฮง”ชื่นมื่นทั้งสองฝ่าย
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เดินทางเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการหลังเข้ารับตำแหน่งตามคำเชิญของ นายฮอร์นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา โดยได้เข้าหารือเต็มคณะระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศ โดย นายฮอร์นัม ฮง กล่าวต้อนรับคณะของไทยและย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนาน
ขณะที่ นายสุรพงษ์ กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาที่ให้การต้อนรับอย่างดี
พร้อมกับระบุว่าการเดินทางมาเยือนในครั้งนี้เสมือนเป็นการเปิดศักราชใหม่ด้านความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยขอให้แยกปัญหาที่มีอยู่ออกจากความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนาน โดยไทยพร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้าน และรัฐบาลไทยมุ่งดำเนินนโยบายส่งเสริมความสัมพันธ์ รวมถึงการพัฒนาในด้านต่างๆด้วย
หลังจากการหารือ นายนัมฮง แถลงว่า การหารือครั้งนี้เป็นไปด้วยบรรยากาศมิตรไมตรีและจริงใจต่อกัน
ทั้งนี้ฝ่ายกัมพูชาขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นมีความคืบหน้าในทางที่ดีขึ้นในแต่ละวัน ในแง่การค้าซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปีนั้น ตนเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นทุกปี ในการหารือยังได้แสดงความหวังว่าไทยคงจะเดินหน้ากระบวนการภายในเพื่อปฏิบัติตามศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก พร้อมกับรายงานให้ศาลโลกได้รับทราบด้วย ซึ่งนายสุรพงษ์ แสดงความเห็นด้วยที่ทั้งสองประเทศจะต้องปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราวที่เป็นไปตามคำสั่งศาลโลก ที่จะให้ถอนทหารในพื้นที่บริเวณที่ศาลโลกกำหนด และเห็นด้วยที่จะให้จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี ไทย-กัมพูชา ในอนาคตเพื่อให้สามารถก้าวเข้าไปสู่การปักปันเขตแดนที่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งถือว่าสามารถทำได้ก่อนในระหว่างที่ยังรอคำตัดสินของศาลโลก
นายนัมฮง กล่าวด้วยว่า การเยือนครั้งนี้ รมว.พลังงานของไทย ได้เดินทางมาพร้อมคณะด้วย
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าได้พบหารือกับ นายซก อัน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อหารือถึงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลด้วย โดยตนได้แจ้งต่อ นายสุรพงษ์ ว่า การพบกันครั้งนี้จะนำไปสู่การแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลร่วมกัน ซึ่งมีทรัพยากรมากมายทั้งน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ถ้าสามารถแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ก็จะสามารถนำพลังงานมาใช้สำหรับสองประเทศได้ โดยกัมพูชาไม่ต้องการอะไร แค่ขอส่วนแบ่งที่เหมาะสม นายสุรพงษ์ก็ได้บอกว่าได้รับแต่งตั้งเป็นประธานแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งถือเป็นข่าวดี โดยนายสุรพงษ์ รับปากจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหา
รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงปัญหาของนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์
ว่าจะมีการลดโทษหรือขออภัยโทษได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งฝ่ายไทยได้ขอบคุณที่ได้ดูแลความเป็นอยู่ของทั้งสอง และตนได้เรียนให้นายสุรพงษ์ ทราบว่า รัฐบาลกัมพูชา ได้ดูแลความเป็นอยู่ให้ดี ส่วนเรื่องการลดโทษ ต้องดูที่หลักความจริง โดยกฎหมายกัมพูชามีอยู่ว่านักโทษต้องได้รับโทษ 2 ใน 3 ก่อนจึงจะสามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้ ซึ่งตนได้แจ้งต่อนายสุรพงษ์ว่า หากไทยขอแลกเปลี่ยนนักโทษเป็นกลุ่ม ทางกัมพูชาก็รับข้อเสนอนี้
ด้าน นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า การเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามความคืบหน้า
หลังจากการหารือของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อครั้งเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ก็เพื่อเตรียมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี หรือเจซี ไทย-กัมพูชา ครั้งต่อไปที่จะมีไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2555 ซึ่งได้ตกลงกับนายนัม ฮง ว่าจะประชุมกันระหว่างวันที่ 29 ก.พ.- 1 มี.ค.2555 ซึ่งคาดว่าจะเป็นการหารือร่วมกันอย่างจริงจัง ที่นับว่าจะเป็นการเปิดศักราชใหม่ นอกจากนี้การเดินทางครั้งนี้ มี รมว.พลังงาน ร่วมคณะมาด้วย เพื่อหารือถึงประเด็นการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งตนในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะเจรจาเขตพื้นที่ทางทะเลนั้น ซึ่งขณะนี้รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเดินหน้าเรื่องเขตแดนทางทะเลต่อไปหรือไม่อย่างไร โดยขณะนี้คณะกรรมการด้านเทคนิค กำลังประมวลความเห็นจากราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาพิจารณา ซึ่งหากเดินหน้าต่อก็จะนำเสนอกรอบการเจรจาให้รัฐสภาเพื่อเห็นชอบก่อน
"ส่วนการประชุมอาเซียนในปี 2555 ที่จะมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพนั้น ไทยพร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับกัมพูชาอย่างเต็มที่เพื่อให้มีการจัดประชุมได้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยหวังว่ากัมพูชาจะนำเรื่องการพัฒนาศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติทางน้ำ มาผลักดันร่วมกันต่อไป" นายสุรพงษ์ ก่าว