นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ มาตราต่างๆที่ต้องการแก้ไขไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศเลย ยกเว้นแต่จะมีวาระซ่อนเร้น หรือสับขาหลอกของพรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก เท่านั้น
นายถาวร กล่าวว่า นับตั้งแต่รัฐบาลพยายามจะออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษ แล้วถูกจับได้ไล่ทันก็บอกว่าไม่ใช่ไม่จริง
พอจะออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมก็จับได้ แล้วบอกว่าไม่ใช่อีก แล้วหันไปให้คณะนิติราษฏ์เสนอให้ล้มล้างการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติในปี 49 เพื่อเริ่มต้นใหม่ ทั้งหมดก็เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณทั้งนั้น เพราะการเคลื่อนไหวหรือ จัดกิจกรรมแต่ละครั้ง ต้องใช้เงิน ถามว่าใครจะออก ไม่มีใครกล้าใช้พันๆล้านเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอดมา ดังนั้นเชื่อว่า หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะแก้ก็ต้องแก้ ม. 309 แน่นอน เพื่อให้การดำเนินการต่างๆทั้งหมดที่ทำให้มีการยึดทรัพย์ หรือคดีอาญากับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกิดจากรธน. ปี 49 และประกาศที่เกี่ยวข้องของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นอันโมฆะ แต่ปิดบังซ้อนเร้นโดยตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมา เขาต้องได้เสียงข้างมากอย่างแน่นอนจากเลือกตั้ง 71 คน หรือ22 คนจากรัฐบาลสรรหา
“ผมขอเรียกร้องให้เรื่องนี้เอาไว้ก่อน เพราะเท่าที่ฟังประเด็นที่จะแก้ก็เรื่องของการยุบพรรค ที่มีมาตั้งแต่ปี 40 หรือเรื่องการห้าม ส.ส.ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่รัฐธรรมนูญ ปี 50 ยังผ่อนคลายด้วยซ้ำไป เรื่องอื่นๆยังไม่อยู่ในสถานะที่จำเป็น ฉะนั้นจำเป็นเรื่องเดียวคือเอาเจ้าของเงิน เจ้าของพรรคกลับบ้านโดยไม่ติดคุก ขอให้หยุดก่อน ถ้าฝ่าฝืนดันทุรัง วิกฤตทักษิณจะกลับมารอบ 2 แน่นอน เพราะต้องมีการปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเห็นแก่บ้านเมืองก็ขอให้ยุติเรื่องนี้ แล้วหันไปแก้ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาทุจริต คอรัปชั่น เพราะเริ่มได้กลิ่นว่ามา เริ่มมีการเรียกใต้โต๊ะ คืนเงินทอนก่อนได้รับใบอนุญาตจัดสรรร้อยละ 35 ของโครงการบูรณะซ่อมแซมเยียวยาหลังน้ำท่วม มีการจัดสรรแต่รัฐมนตรีแต่ละราย ว่าได้โควต้ากันกี่ร้อยล้านพันล้าน รัฐมนตรีบางคนก็ให้ลูกน้องออกไปเร่ขายกับผู้รับเหมา โดยผมจะประสานกับสว. และภาคประชาชนคอยตรวจสอบต่อไป จึงขอปรามและอย่าคิดว่าประชาชนและฝ่ายค้านไม่รู้อะไร ขอให้นายกรัฐมนตรีจริงใจกับนโยบาย ปราบปรามการทุจริตอย่างเด็ดขาด” นายถาวร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร นายถาวร กล่าวว่า
จะเสนอกับคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าเราต้องคัดค้านเรื่องนี้อย่างหนักแน่น เพราะหากยอมให้มีการแก้ไข ไม่สามารถรับประกันได้ว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการยัดไส้แก้ไขมาตราที่ช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ และหากเลยไปถึงขั้นทำประชามติ อาจจะมีการนำมาอ้างใช้ในการทำตามอำเภอใจ เหมือนที่เขาอ้างเรื่อง 15 ล้านเสียงต้องการให้คืนพาสปอร์ตให้พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เมื่อถึงเวลานั้นตนเกรงว่าอาจจะคัดค้านช้าไปหรือไม่
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคเลยมีการโหวตไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คิดว่าในครั้งนี้จะต้องมีการโหวตภายในพรรคอีกหรือไม่
นายถาวร กล่าวว่า ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องโหวต แต่ตนเชื่อว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ที่เคยสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น จะมีท่าทีที่เปลี่ยนไป เพราะท่านต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตลอด และครั้งนี้จะเป็นการทำเพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณกลับมา จึงมั่นใจว่านายสุเทพไม่เอาด้วยแน่ แต่ทั้งนี้ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยจะแก้ไขมาตราใดบ้าง ถ้าไม่แตะมาตรา 309 เลย เราอาจจะพิจารณาดูอีกที แต่ถ้าแตะมาตรา 309 เมื่อไหร่ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วยแน่นอน
ส่วนกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะแก้ไขมาตรา 112 ในประมวลกฏหมายอาญานั้น
นายถาวร กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขมาตราดังกล่าว เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการฟ้องร้องหมิ่นประมาท โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเคารพของคนไทย ที่เราสามารถดำเนินการฟ้องร้องหมิ่นประมาทแทนสถาบันได้ ทำไมรัฐบาลต้องมุ่งมั่นที่จะแก้ไขมาตรานี้ ทั้งที่เห็นชัดว่าจะเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ไขม.112 มีขั้นตอนที่ง่ายกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากในสภา ทางพรรคประชาธิปัตย์จะใช้วิธีการใดคัดค้าน
นายถาวร กล่าวว่า ตนมั่นใจว่า แม้เราจะแพ้เสียงในสภา แต่เชื่อว่าคนไทยจำนวนมาก จะไม่ยอมให้รัฐบาลชุดนี้ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ รัฐบาลอ้าง 15 เสียงแต่พวกเขามอบหมายให้มาบริหารประเทศ ไม่ใช่ให้มาทำอะไรตามใจชอบ แล้วทำไมไม่คิดบ้างว่า อีก 45 ล้านคน จะชอบใจหรือไม่ ตนบอกได้เลยว่า ถ้ารัฐบาลดำเนินการแก้มาตรา 112 เมื่อไหร่ จะมีประชาชนจำนวนรวมถึงตนและคนสงขลาออกมาคัดค้าน ซึ่งมากกว่าแสนคนที่ออกมาตอนปี 53 อย่างแน่นอน