กี้ร์เปิดใจ ต้องใช้ชีวิตเเบบระวัง..ผมต้องกลับไปเป็น อริสมันต์คนเดิมให้ได้

นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อายุ 47 ปี แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเช้าวันที่ 7 ธันวาคม พร้อมรับทราบข้อกล่าวใน 5 คดี ประกอบด้วย คดีบุกรุกอาคารรัฐสภา คดีบุกรุกสถานีดาวเทียมไทยคม คดีก่อการร้าย คดีปล้นอาวุธปืนจากทหาร และคดีจี้บังคับตำรวจที่โรงแรมเอสซีปาร์ค นายอริสมันต์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ในช่วงบ่าย ศาลอาญามีคำสั่งให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายอริสมันต์ จำเลยคดีก่อการร้าย โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีข้อหาร้ายแรงและอัตราโทษสูง หลังเกิดเหตุจำเลยหลบหนีตลอดมา แม้จำเลยจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานก็เป็นเวลานาน และยังเป็นบุคคลที่ศาลอาญาออกหมายจับในคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่น หมายเลขดำที่ อ.4177/2552, อ.1463/2553 ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุพอเพียงให้ศาลเชื่อได้ว่าหากอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะไม่หลบหนีอีก ให้ยกคำร้อง

หัวข่าวเช้าวันนี้ ใช้คำว่า โทษหนัก ศาลไม่ให้ประกัน "กี้ร์" นอนคุก

ก่อน นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เเกนนำคนเสื้อเเดง จะนอนคุก เขาได้ให้สัมภาษณ์ทางโมเดิร์นเรดิโอ เอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิร์ตซ์ หลายประเด็นมีความน่าสนใจ

ที่ผ่านมาหลบหนีไปอยู่ที่ไหน

ไปอยู่ไหนก็เป็นไปตามรายงานข่าวของสื่อ มวลชนเเละหนังสือพิมพ์ เช่น กัมพูชา ผมไปทำพืชไร่ คือ อ้อย ตอนนี้ผิวดำขึ้นนิดหน่อย ส่วนน้ำหนักตัวลดลงนั้น เพราะฟิตร่างกายเพื่อให้เป็นอริสมันต์คนก่อน

เหตุที่หลบหนีคดีเเละไม่มามอบตัวนั้น เพราะการจับกุมทำให้ผมไม่เชื่อมั่นในความเป็นธรรม ใช้วิธีที่รุนเเรงเกินไป เช่น การไล่ล่าจับผม การซุ่มทำร้าย ความพยายามอุ้มในสถานที่ต่างๆ จึงคิดว่าควรหลบออกนอกประเทศไปก่อน

ที่ผ่านมาก็มีการตามไล่ล่าจับผมเเบบฉิวเฉียดหลายครั้ง

การไล่ล่านั้นระดับใด

น่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญของคนที่รับภารกิจที่จะดำเนินการกับผม คือจับตาย ตอนนี้เมื่อผมคิดว่ากระบวนการยุติธรรมเปิดเเละให้ความปลอดภัย จึงเหมาะสมที่จะกลับเข้ามา

หลังจากนี้คงต้องดูเเลตัวเองให้มากขึ้น แต่ก็มั่นใจเรื่องความยุติธรรม บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติเเล้ว ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พูดและอธิบายว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร และได้เคลียร์กับบางส่วนไปเเล้ว

กับกองทัพได้เคลียร์กันหรือไม่

ต้องทำความเข้าใจกับกองทัพด้วย มีคนส่วนหนึ่งมาช่วยเคลียร์ให้ ขณะเดียวกันผมก็คุยเอง เเละขอให้ผู้ใหญ่ 2 ฝ่ายในบ้านเมืองเข้าใจอุดมการณ์ของผมว่า สิ่งที่ทำไปนั้นไม่ได้หวังประโยชน์ส่วนตัว เเต่ผมใช้สิทธิ์ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

มอบตัวกับดีเอสไอ มั่นใจแค่ไหนว่าได้ประกันตัว

ต้องมั่นใจว่าจะได้รับการประกันไปต่อสู้คดี เเต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่ดุลพินิจในข้อมูลของอัยการ ดีเอสไอน่าจะส่งข้อมูลไปพอควร

ส่วนข้อกล่าวหาก่อการร้ายนั้น ดีเอสไอมีการทบทวนเเละลดข้อกล่าวหา รวมทั้งตั้งข้อกล่าวหาใหม่ หมายความว่า ข้อกล่าวหาขบวนการคนเสื้อเเดงว่าก่อการร้ายไม่น่าจะเป็นความจริง หากเป็นจริงข้อกล่าวหานี้ต้องเเข็งเเรง มีการดำเนินการต่อ ไม่น่าจะมีการทบทวนข้อกล่าวหากันใหม่

ข้อมูลที่ดีเอสไอได้รับในอดีตจึงไม่เป็นจริง หวังว่าจะได้รับความปรานีจากอัยการเเละความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมที่ผมหวังไว้

ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร

ผมต้องใช้ชีวิตเเบบระวัง การต่อสู้ทางประชาธิปไตยจากนี้ต้องรัดกุม วางเเผนเป็นระบบมากกว่าในอดีต คนเสื้อเเดงไม่ต้องไปให้กำลังใจผมมาก ไม่อยากให้รู้สึกว่านำมวลชนไปกดดัน

จึงประสานเเกนนำคนเสื้อเเดงว่าไม่จำเป็นไม่ต้องไป เดี๋ยวจะหาสถานที่เหมาะสมเปิดใจกัน ผมพยายามกลับมาอย่างไม่เป็นข่าวเเละปกติที่สุด

เปลี่ยนการต่อสู้ทางการเมืองหรือไม่

สิ่งที่สุ่มเสี่ยงต้องเลี่ยงให้หมด ตอนนี้หน้าที่ของคนเสื้อเเดงที่ทำมาตลอดนั้นได้ชัยชนะมาครึ่งหนึ่ง ที่เหลือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พิจารณาว่าเจตนารมณ์ของคนเสื้อเเดงคือสิ่งใด เช่น เเก้รัฐธรรมนูญ เเก้กฎหมายที่มาจากรัฐประหาร

ถึงเวลาที่รัฐบาลนี้ต้องใช้ความกล้าหาญ ใช้มติของประชาชนส่วนใหญ่ไปดำเนินการ หากทำได้คนเสื้อเเดงชนะร้อยเปอร์เซ็นต์

เป้าหมายที่รัฐบาลควรทำ

นำประเทศเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระดับโลก เช่น การลงสัตยาบันกรุงโรมเพื่อให้ศาลโลกเเละศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาดำเนินการกับกรณีสังหารประชาชนในอดีต เเละป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

หากทำได้จะเป็นสิ่งที่ดี มันจะสิ้นสุดการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิต

ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ นำไปให้รัฐสภาเเก้ไข ส่วนกฎหมายนิรโทษกรรมนั้นเป็นเรื่องความปรองดอง รวมถึงปล่อยตัวนปช.ที่เป็นผู้ต้องหาในตอนนี้ และตรวจสอบในสิ่งที่ผ่านมา

ข้อเรียกร้องจะมีเเรงต้านหรือไม่

เรื่องดังกล่าวต้องให้มีกรรมการขึ้นมาดูว่าประชาชนเรียกร้องในเรื่องใด หากจะรู้ความต้องการของประชาชนว่าอยากให้รัฐบาลทำในสิ่งใด ควรให้ เเสดงความเห็นทางจดหมายเเละไปรษณียบัตร โดยไม่ต้องขนประชาชนไปเรียกร้องกับส่วนราชการ

ถ้าประชาชนต้องการข้อเรียกร้องดังกล่าวจริง รัฐบาลต้องดำเนินการตามเสียงส่วนใหญ่

เเรงต้านอาจถึงขั้นล้มรัฐบาลได้

หากเกิดขึ้น มันต้องมีการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ยกระดับขึ้นมาอีก เเละมีนัยยะสำคัญขึ้น เข้มข้นเเละเเรงขึ้น สิ่งที่ผมบอกไปนั้นใช้เงินน้อยสุดเเละมีหลักฐาน หากรัฐบาลทำได้ก็ไม่ต้องนำคนเสื้อเเดงออกมามาก

หากรัฐบาลไม่เชื่อคนเสื้อเเดง นปช.ก็จำเป็นต้องออกมาเเสดงตนให้สังคมเห็นว่ามีตัวตนจริง

วางแผนในอนาคตอย่างไร

สาเหตุที่ผมอยู่ในประเทศไทยไม่ได้เหมือนก่อน เพราะวิธีคิดของผมที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเป็นอันตราย จึงต้องทบทวนบทบาทว่าที่ผ่านมาเป็นเช่นใด

ผู้จัดการส่วนตัวของผมบอกว่า ที่ผ่านมาผมเป็นพระเอก วันนี้โดนป้ายสี ไม่กลับประเทศ ดังนั้นจะยอมรับข้อกล่าวหาเเละใช้ชีวิตในต่างประเทศเเบบนี้หรือ

ผมก็กลับไปนั่งคิด ช่วงเป็นนักร้อง มันเเตกต่างกับบทบาทในวันนี้มาก ฉะนั้นต้องกลับไปเป็น อริสมันต์คนเดิมให้ได้ โดยเป็นตัวตนที่เเท้จริง ใช้ความนุ่มนวล อย่าให้คนอื่นเข้าใจทิศทางที่ผิด เหมือน 3 ปีที่ผ่านมา

เช่น เข้าใจว่าผมมีกองกำลัง มีท่อน้ำเลี้ยง ใช้ความรุนเเรง

อาจเป็นเพราะผมมีคนรัก มีลูกน้องเยอะ เป็นกันเองกับคนที่ร่วมอุดมการณ์ คนที่ตามผมไปนั้นไม่หวังจะใช้กำลัง เเต่มันเป็นความสนุก สนานที่รักประชาธิปไตย

ผมชี้เเจงเสมอว่าเรายังไม่มีอำนาจอธิปไตยเต็มที่ ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก เพียงเเค่ไปลงคะเเนน เลือกส.ส.เท่านั้น

อำนาจเหล่านี้ ประชาชนควรมีส่วนร่วมอย่างเเท้จริง เเต่วันนี้การมีส่วนร่วมของประชาชนในอำนาจเหล่านี้ริบหรี่ ผมหวังว่าการกลับมาวันนี้ อำนาจเหล่านี้จะเป็นของประชาชนอย่างเเท้จริง

ส่งสารไปถึงคนที่รักเเละคนที่ชัง

ขอส่งสารไปว่าการเรียกร้องประชาธิปไตยนั้น ผมยังยืนหยัดในสิทธิเเละอำนาจเเท้จริง เพราะต้องการให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่สัมผัสได้ ประชาชนมีอำนาจเเท้จริง ตรงนี้คือเจตนารมณ์ ของผม

ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยนั้น ขอย้ำว่าผมไม่เคยคิดล้มเเละใช้ความรุนเเรงในการเรียกร้อง ขอให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งที่ผมกระทำด้วย