เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
กล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมงว่า วันนี้เดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมืองเมื่อปี 2553 พนักงานสอบสวนสอบปากคำตนในเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ตนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ขอคืนพื้นที่จราจรบริเวณสะพานพระราม 8 และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามคำสั่งนั้น ได้ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายอย่างถูกต้องทุกอย่าง แต่มีคนไปอ้างว่าการปฏิบัติการดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนได้ยื่นหลักฐานต่างๆ ให้กับทางตำรวจแล้ว
นายสุเทพกล่าวว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของตนนั้น
ได้ทำงานอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปี พ.ศ.2548 ซึ่งตนขอยืนยันว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นคำสั่งของตนในฐานะ ผอ.ศอฉ.นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
"ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของผมทำงานอย่างถูกกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีเหตุรุนแรงที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ แต่วันนี้ผมได้ให้ภาพถ่ายกับตำรวจ ที่เป็นชายชุดดำซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายเข้ามาก่อการ เป็นเหตุให้ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตามเหตุการณ์ที่เกิดในวันที่ 10 เมษายน เท่านั้น" นายสุเทพกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนนัดตนอีกครั้งในวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 14.00 น. เพื่อจะสอบปากคำเพิ่มเติมในเหตุการณ์สลายการชุมนุมและการขอคืนพื้นที่ ซึ่งตนก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ