ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการปราบปรามเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า
รัฐบาลทำงานแก้ปัญหานี้มาตลอด โดยหน่วยงานที่มีกลไกเครื่องมือจัดการกับปัญหานี้มากที่สุด คือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) รองลงมาคือกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) แต่ยังไม่ได้บูรณาการการทำงานของหน่วยงานเหล่านี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จึงไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทั้งนี้ จากการที่ตนได้พบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็ทราบว่าผบ.ทบ.ห่วงใยเรื่องนี้อย่างมาก และกองทัพพยายามแก้ปัญหา แต่เนื่องจากเขามีบุคลากรและเทคโนโลยีจำนวนน้อย ผบ.ทบ.จึงบอกตนว่าขอให้รัฐบาลช่วยดำเนินการ ซึ่งตนได้นำเรื่องนี้รายงานให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบแล้ว และตนจะทำร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยจะจัดทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งตนคาดว่านายกรัฐมนตรีอาจจะมอบหมายตนให้เป็นประธานคณะกรรมการดังกล่าว อีกทั้ง ขั้นตอนสุดท้ายในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องผ่านกระทรวงไอซีที ตนจึงจะแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีว่าขอให้แต่งตั้งปลัดกระทรวงไอซีทีเข้าทำหน้าที่ในคณะกรรมการนี้ด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สาเหตุที่การแก้ปัญหาดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า เป็นเพราะแม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งบุคคลสำคัญเข้ามาเป็นกรรมการ
แต่กลับอ้างว่าติดภารกิจอื่น บางคนจึงมาประชุมแค่ครั้งเดียว หรือบางคนมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับล่างมาประชุมแทน ทำให้งานไม่เดิน ซึ่งถือว่าเขาไม่ให้ความสำคัญ แต่ถ้าครั้งนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายงานให้ตน และแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่มาประชุมกัน ตนจะนำคนคนนั้นมาประจานเพราะถือว่าเรื่องที่เป็นการถวายพระเกียรติยศ พระเกียรติศักดิ์เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน แต่คนที่เป็นกรรมการ แม้จะอ้างว่าติดธุระนั้นก็ทำได้ แต่อย่าบ่อยนัก ส่วนที่อ้างว่าการทำเว็บไซต์ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาจากต่างประเทศจึงทำให้ปิดเว็บไซต์นั้นๆไม่ได้นั้น ตนมีนโยบายว่าเขาก็เปิดไม่ได้เช่นกัน แม้ใช้นิติศาสตร์ไม่ได้ แต่ก็ใช้รัฐศาสตร์ได้ โดยตนจะไปพูดคุยกับเจ้าของเว็บไซต์ ต้องจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับคนที่จัดทำเนื้อหาที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และคนที่เผยแพร่หรือส่งต่อ นอกจากนี้ กองทัพบกพร้อมสนับสนุนตนอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ และตนยืนยันว่าจะทำงานนี้ให้ดีที่สุด และตนมั่นใจดีกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา แม้อาจจะปราบได้ไม่หมด แต่จะเหลือน้อย
เมื่อถามว่าขบวนการที่ทำการดังกล่าวมีกลุ่มการเมืองให้การสนับสนุนอยู่ รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ยากเลย แค่ไม่เกรงใจอย่างเดียวก็จบ บางคนมีแผลทางการเมืองจึงไม่กล้าไปรบกับนักการเมือง แต่หลังของผมไม่มีแผล ถ้าเอาทิงเจอร์มาราด ก็แค่ซ่าๆ ผมไม่เกรงใจว่าจะกระทบชิ่งใคร การเมืองมันต้องกล้าตัดสินใจ เรื่องเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินแล้วจะมาทำเหลาะแหละ ผมไม่ยอม” เมื่อถามย้ำว่าผู้ที่กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ บางคนเป็นผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทย รัฐบาลจะกล้าจัดการหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีเสื้อสีใด ไม่ว่าเขาจะเป็นคนที่สนับสนุนใคร ถ้าทำความผิดหมิ่นสถาบัน พรรคเพื่อไทยก็ไม่ยอมโดยเด็ดขาด ต้องถูกจับหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแล้ว
ปรากฏว่าพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพ 16 สำนวน ได้มาเข้าพบร.ต.อ.เฉลิม ที่ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลานาน 30 นาที ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามร.ต.อ.เฉลิม ถึงเรื่องนี้ว่าเป็นการหารือถึงความคืบหน้าการเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาให้ปากคำในคดีดังกล่าว ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นการพูดคุยเรื่องปัญหาเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน