แสงไฟอบอุ่นระยิบระยับ ริมถนนราชดำเนินพร้อมดอกไม้สดสวยเรียงรายประดับกับสายลมหนาว ในวาระ "5 ธันวา"
ซึ่งในอดีต นับแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นผู้นำรัฐบาล ได้กำหนดให้ วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็น "วันชาติ" เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่รัฐบาลพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา กำหนดให้ "วันชาติ" ตรงกับวันที่ 24 มิถุนายน
ส่วน "วันพ่อแห่งชาติ" เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 ในยุคที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี "วันพ่อแห่งชาติ" จึงมีความหมายต่อประชาชนคนไทยในระดับชาติร่วมกัน เพื่อเฉลิมฉลองถวายพระพรพ่อของแผ่นดิน ขณะเดียวกัน ก็มีความหมายในระดับประชาชนบนคู่ความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูก ระหว่างปัจเจกชนคนในครอบครัว
เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ปี 2554 "ประชาชาติธุรกิจออนไลน์" พาผู้อ่านไปสนทนากับ "แกนนำนปช. พ่อลูกอ่อน" ที่มีชีวิตทางการเมืองเดินเข้า-ออกคุกตาราง ในระหว่างที่ลูกๆ ยังเล็ก ในประเด็นว่าด้วยเรื่องภารกิจ "พ่อ" ของครอบครัว และแกนนำมวลชน รวมถึงบทบาท ส.ส.ในรัฐสภา
"นปก -ลูกชายคนโตเคยไปเยี่ยมผมที่เรือนจำและเยี่ยมที่ศาล ตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าผมทำงานที่เรือนจำ ล่าสุด พาเขาไปเที่ยวเขาดิน พอนั่งรถผ่านรัฐสภา แม่เขาก็ชี้และบอกว่า พ่อทำงานที่นี่ (รัฐสภา) ลูกชายคนโตก็ถามขึ้นว่า นี่เหรอเรือนจำ? ก็เลยต้องบอกเขาว่า ไม่ใช่.. พ่อไม่ได้ทำงานที่เรือนจำแล้ว คือเขายังคิดว่า พ่อทำงานที่เรือนจำ แต่ไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไง"