กกต.ปัดเปล่าเป็นเครื่องมือฟันตู่

นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
 
เปิดเผยถึงกรณีการส่งมติกกต. ในคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยว่า เรื่องดังกล่าวทางกกต. ดำเนินการอย่างเป็นธรรม เที่ยงธรรมที่สุด โดยมีการลงมติจากกกต. หลังจากที่ได้ตั้งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ขึ้นมา อาทิ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้ดูกฎหมายอย่างถ้วนถี่ ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการไต่สวนมีความเห็นส่งมา กกต. ก็เห็นตาม เพื่อให้ส่งตามช่องทางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91

"เราไม่ใช่เครื่องมือของใคร ไม่มีใครมาสั่งได้ เราทำทุกอย่างด้วยตัวของเราเอง อย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า กกต.ต้องรีบเขียนคำวินิจฉัย เพราะจะมีกกต.แห่กันไปนอกอีกแล้ว เรื่องนี้ อาจจะทำให้คนสับสน และเข้าใจกกต.ผิดว่า ไม่ทำงาน แล้วไปเที่ยวกัน ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้ไปกันหมด มีเพียงนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ที่เดินทางไปศึกษาดูงาน และประเมินผล การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่แอฟริกาใต้ เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่อีก 4 คนก็ยังอยู่ และก็ไปไม่นาน"

         
ทั้งนี้ ในส่วนของคำวินิจฉัย ก็ยังต้องมีการเขียนกันอีก ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยส่วนตัว เมื่อเสร็จแล้ว ก็จะส่งไปให้ประธานสภา คาดว่า กระบวนการดังกล่าวน่าจะเสร็จก่อนสิ้นเดือน

         
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการไต่สวนชุดหนึ่ง ได้เคยเสนอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง สามารถตัดชื่อนายจตุพร ออกจากฐานข้อมูลสมาชิกพรรคได้ทันที เพื่อยืนยันว่า นายจตุพรได้สิ้นสภาพสมาชิกไปแล้ว ตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น นายอภิชาติ เห็นว่า เป็นอำนาจของเขา ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่เขาไม่อยากตัดสินใจด้วยตัวเองคนเดียว และเพื่อความเป็นธรรม จึงให้โอกาสของนายจตุพร ได้ไปชี้แจงต่อศาล แต่ถ้าจะไปลบชื่อกันเลยก็จะเกิดความข้องใจกันอีก

         
เมื่อถามว่า อาจมีการนำความเห็นของนางสดศรี ไปเป็นข้อต่อสู้ในศาล แล้วทำให้นายจตุพร ไม่สิ้นสภาพความเป็นส.ส. นายอภิชาต กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องปกติที่เรื่องเข้าสู่ศาล คู่กรณีก็สามารถทำหลักฐาน ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองไปใช้ได้