นายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการรักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้ามติของกกต.
หลังจากที่ชี้ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สิ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. และส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้อยู่ขั้นตอนของการเขียนคำวินิฉัยก่อนที่จะส่งเรื่องไปยัง ตามกรอบของการดำเนินการเบื้องต้นหลังจากที่กกต.มีมติแล้วจะต้องดำเนินการเขียนคำวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่หากไม่เสร็จก็ขอขยายเวลาออกไปได้อีก 30 วัน แต่สำหรับกรณีของนายจตุพรเป็นกรณีที่ประชาชนสนใจคาดว่า ถ้าตามกรอบของเวลาแล้วภายในวันที่ 20 ธ.ค. ร่างคำวินิจฉัยน่าจะส่งมาให้กับกกต.ทั้ง 5 คน ได้พิจารณาความถูกต้องภายในระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่ ว่ายังมีอะไรที่ต้องแก้ไขในถ้อยคำใดหรือไม่ ซึ่งก็เป็นระยะเวลา 10 วัน เมื่อกกต.ทุกคนลงนามเสร็จแล้วก็จะส่งให้กับประธานสภา เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบถึงความสมบูรณ์ของเอกสารต่างๆ ว่า ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ แล้วส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในส่วนของขั้นตอนที่ประธานสภาไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้อย่างชัดเจน แต่คาดว่าทางสภาก็น่าจะทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
“ในส่งของกกต.มีมติที่ชัดเจนว่าต้องทำคำวินิจฉัยให้เสร็จภายใน 30 วัน ของกกต.น่าจะเป็นขั้นตอนของกระบวนการเขียนคำวินิจฉัยที่จะต้องทำให้ครบถ้วน รวมถึงเหตุผลประกอบเมื่อส่งไปยังประธานสภา ซึ่งเราไม่ทราบว่าเขามีระเบียบวิธีการปฏิบัติ หรือมีกรอบระยะเวลาหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ทราบจะไม่มีระยะเวลา หรือกรอบกำหนดไว้ แต่สำหรับในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ เราก็จะไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่โดยหลักแล้วศาลจะมีกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งเทียบเคียงกันได้ โดยถ้าเรื่องเข้าสู่ระบบไปแล้วน่าจะอยู่ระหว่าง 3 เดือนในการที่จะไต่สวน หรือเรียกข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ดังนั้นตามขั้นตอนตนเชื่อว่ากระบวนการน่าจะจบภายใน 5-6 เดือน” นายสมชาติ กล่าว.