สุรยุทธ์ แจง แม้ว เคลื่อนไหวทางการเมืองป่วน คือ สาเหตุต้องยกเลิกหนังสือเดินทางทูต แนะสื่อสร้างความสมดุลในการเสนอข่าวยันรัฐบาลเปิดกว้างเต็มที่ ส่วนการปรับครม.ยังไม่คืบหน้า เผย มีเพียง รมว.ศึกษาฯ คนเดียวที่ขอเพิ่มเก้าอี้ รมช.มาช่วยงาน
นายกฯ แจงเหตุ ริบพาสปอร์ตฑูตแม้ว
วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น
โดยเฉพาะมาตรการต่างที่ คมช.จะออกมาในลักษณะการขอความร่วมมือการสร้างความสมานฉันท์ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะเรื่องด้านความมั่นคง เป็นเรื่องของทาง คมช.ที่จะดำเนินการอยู่แล้วในกรอบที่ทาง คมช.ได้กำหนดไว้เอง คงไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหญ่โต
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะกลายเป็นการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายที่ตรวจสอบการทำงานหรือไม่
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าถ้าสื่อจะไปถามให้ชัดเจนในส่วนนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ตนคงตอบแทน คมช.ไม่ได้ในรายละเอียด แต่ในส่วนที่ตนมองภาพ คือ เราเป็นสังคมที่เปิด เป็นสังคมที่ควรที่จะสอบถามความคิดเห็นกันได้
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศ ถอนหนังสือเดินทางทูตสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และภริยา ว่า
เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการ และได้มีการชี้แจงเหตุผลตามที่ท่านทั้งหลายได้รับทราบอยู่แล้วว่ามีความเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับสถานภาพของพาสปอร์ตสีแดง (หนังสือเดินทางทูต)
ผู้สื่อข่าวถามว่า
หากมีปัญหาเรื่องวีซ่า ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะขอกลับเมืองไทย พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่เป็นปัญหาในเรื่องเหล่านั้น เพราะการที่จะขอวีซ่าไปประเทศต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้ตามปกติอยู่แล้ว แม้ว่าจะอยู่ต่างประเทศก็ขอวีซ่าจากสถานทูตที่เราจะไปในประเทศนั้นๆ ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า จะขอร้องให้รัฐบาลจีนจำกัดขอบเขตการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถที่จะดำเนินการในลักษณะอย่างนั้นได้ เพราะแต่ละประเทศมีเอกภาพบูรณภาพในดินแดนของตัวเอง แต่เรามีเจ้าหน้าที่ของเราอยู่แล้วคงต้องดำเนินการในส่วนเหล่านั้นกันต่อไป
เมื่อถามว่า ช่วยขยายความในเรื่องของการเคลื่อนไหวทางการเมือง
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจง ซึ่งตนเองคิดว่าคงไม่สามารถลงไปในรายละเอียดได้ คิดว่า ทางสื่อเองน่าจะไปสอบถาม ที่ตนตอบหมายถึงเป็นคำตอบที่กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงไปแล้ว ตนเองไม่มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม
นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์
ถึงกรณีที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มีคำสั่งขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ใช้วิจารณญาณในการนำเสนอข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกมองเป็นการปิดกั้นสื่อ ว่า อยู่ที่สื่อจะพิจารณา
ตนคิดว่าความสำคัญอยู่ที่การพิจารณาของท่านทั้งหลายเองว่าท่านมีจุดยืนมีเหตุมีผลอะไรบ้างมีแนวคิดอย่างไร คงเป็นเรื่องธรรมดา ในส่วนของรัฐบาลนี้ตนคิดว่าเราเปิดกว้างในด้านของการแสดงความคิดเห็น ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ ฉะนั้น ตรงจุดนี้สื่อจะต้องใช้วิจารณญาณของสื่อเองด้วย ที่จะยืนอยู่บนพื้นฐานของความสมดุล ความเหมาะความควรต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่ชี้ชัดไปเลยสื่อช่องไหน หรือรายการใด แต่กลับใช้วิธีการเหวี่ยงแห
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถที่จะชี้แจงลงไปได้ เฉพาะเจาะจงอย่างนั้น คิดว่าทาง คมช.เองคงมองภาพกว้างๆ เป็นการให้แนวคิดไว้เท่านั้น ยังไม่ได้ระบุเจาะจงลงไป เพราะการระบุเจาะจงคงเป็นเรื่องซึ่งอาจจะสะท้อนกลับว่าไปเพ่งเล็งเป็นรายบุคคลต่างๆ
เมื่อถามว่า รัฐบาลได้หารือกับ คมช.เรื่องนี้หรือไม่
โดยเฉพาะมาตรการต่างที่ คมช.จะออกมาในลักษณะการขอความร่วมมือการสร้างความสมานฉันท์ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะเรื่องด้านความมั่นคง เป็นเรื่องของทาง คมช.ที่จะดำเนินการอยู่แล้วในกรอบที่ทาง คมช.ได้กำหนดไว้เอง คงไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหญ่โต
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะกลายเป็นการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายที่ตรวจสอบการทำงานหรือไม่
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าถ้าสื่อจะไปถามให้ชัดเจนในส่วนนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ตนคงตอบแทน คมช.ไม่ได้ในรายละเอียด แต่ในส่วนที่ตนมองภาพ คือ เราเป็นสังคมที่เปิด เป็นสังคมที่ควรที่จะสอบถามความคิดเห็นกันได้
นอกจากนี้
นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ตอบได้ตรง ๆ คือ นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ ได้หารือกับตนในเรื่องนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น โดยท่านอยากจะขอเพิ่มรัฐมนตรีช่วยว่าการ เพราะงานมากขึ้น
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะทาบทาม น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ มาร่วม ครม.ในตำแหน่งรองนายกด้านความมั่นคง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวเพียงว่า ท่านไม่ได้พบกับผม
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์