"ยงยุทธ"โวเกมการเมืองไม่แพ้ปชป.แน่ ไร้กังวลศึกซักฟอก ยันไม่ตั้งองค์รักษ์พิทักษ์"ประชา" แต่ไม่ปล่อยให้โดดเดี่ยว
ททบ. 5 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.45 น. ที่ททบ.5นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เป็นการหารือภายในเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงาน “5 ธันวา รวมพลังคนไทย รวมหัวใจถวายพระพร พร้อมใจไทยทั้งชาติ ลงแรงทั้งแผ่นดิน ถวายในหลวงของเรา”โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-5 ธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการรวบรวมคนทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มาร่วมกันทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการซ่อมสร้างสาธารณะสถาน และสิ่งอันเป็นสาธารณะประโยชน์ เพื่อฟื้นฟูประเทศไทย ถวายพ่อทั้งแผ่นดิน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า สภาพในกรุงเทพฯตอนนี้ประสบกับปัญหาน้ำเสียขยะมาก เต็มไปด้วยยุง ดังนั้นจะมีการระดม 25 จังหวัด และจังหวัดปริมณฑลมาในกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการในวาระสำคัญ ส่วนอีก 58 จังหวัดที่น้ำท่วมก็จะทำในพื้นที่ของตัวเอง โดยรัฐมนตรีทุกคนจะต้องลงพื้นที่ในทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ซึ่งงานดังกล่าวจะทำในนามของรัฐบาล โดยก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณให้ไปแล้ว จังหวัดละ 50 ล้านบาท และให้กระทรวงต่างๆ อีกกระทรวงละ 100 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามการประชุมในวันนี้เป็นการประชุมภายในส่วนของรัฐมนตรีเพื่อไทย ซึ่งจะนำผลการประชุมไปแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเตรียมความพร้อมในการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไรบ้าง นายยงยุทธ กล่าวว่า ถือเป็นการรับผิดชอบร่วมกันของครม.ซึ่งจะต้องช่วยให้ข้อมูล ทางนายกรัฐมนตรีไม่ได้ห่วงอะไรเป็นพิเศษ เพราะการอภิปรายถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะอภิปราย รัฐมนตรีก็มีหน้าที่ที่จะชี้แจง สื่อมวลชนและประชาชนจะเป็นผู้รับฟัง และไม่ได้คิดว่า เกมการเมืองของพรรคเพื่อไทยจะสู้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ เราไม่ได้คิดเรื่องการเมือง คิดแต่เรื่องการบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์เรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำถึงเวลาที่จะต้องปรับคณะรัฐมนตรีได้แล้วหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า แล้วแต่สังคม แต่ความคิดของพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว ยังไม่ได้คิดกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องเป็นความเห็นที่ประชุมพรรค และนายกรัฐมนตรี โดยส่วนตัวในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ข่าวที่สมาชิกต้องการให้ปรับครม. แม้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ.จะถูกอภิปราย เราก็เข้าใจตรงกันว่า การทำงานทำไปด้วยความสุจริต เป็นธรรม มีประสิทธิภาพ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ข้าราชการไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการสภาฯ ว่า เป็นการตรวจสอบราคาในการสั่งซื้อผ่านทางโทรศัพท์ เรื่องนี้ถือว่าผิดปกติหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า การซื้อของที่ประชาชนเดือดร้อน หรือมีภัยพิบัติเกิดขึ้น จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องบรรเทาทุกข์ของประชาชน เชื่อว่า ข้าราชการต้องเข้าใจและระมัดระวังในเรื่องของระเบียบการใช้จ่ายงบบริจาคที่ได้มา หากเป็นงบกองทุนก็ต้องใช้ระเบียบกองทุนของสำนักนายกฯ แต่ถ้ากรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจัดซื้อ ก็ต้องใช้ระเบียบของกระทรวงการคลัง
ยืนยันว่า ไม่ทราบใช้โทรศัพท์ในการตรวจสอบราคา ได้ยินจากสื่ออ่านจากข่าวเท่านั้น ไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้าจะให้ตนตรวจสอบแล้ว ตนมาชี้แจงผลการตรวจสอบ ถามว่าสื่อมวลชนจะเชื่อไหม ดังนั้นตนจึงได้ส่งเรื่องทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขณะเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช.ก็รับที่จะมาสอบ รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรก็กำลังจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นขอให้ใจเย็นๆ รอผลการตรวจสอบของหน่วยงานต่างๆ ผลเป็นอย่างไรก็รอติดตาม ดูว่าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร
สำหรับการชี้แจงในสภาฯนั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า ผู้ที่มีหน้าที่ชี้แจงก็ต้องชี้แจงให้ดีที่สุด จะกระจายหรือไม่อยู่ที่ผู้ฟัง แต่ถ้าผู้ฟังบอกว่าไม่กระจ่างก็ไม่รู้ว่า จะทำอย่างไร แต่การอภิปรายในครั้งนี้รัฐมนตรีทุกคนจะไม่ร่วมโหวตเพราะอาจเป็นเงื่อนไขในภายหลังได้ ซึ่งฝ่ายกฎหมายได้ให้คำแนะนำไว้ว่า รัฐมนตรีไม่ควรจะโหวต แต่การอภิปรายครั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรี คงไม่ปล่อยให้รมต.ท่านหนึ่งท่านใดต้องโดดเดี่ยว การทำงานเราทำงานในนามของครม. แต่คงไม่ถึงมีองค์รักษ์พิทักษ์พล.ต.อ.ประชาขึ้นมาแน่นอน