“ชูวิทย์” แฉเปลี่ยนรางรถไฟแก่งคอย-บัวใหญ่ผิดสเปค

ส.ส.ฝีปากจัด “ชูวิทย์” จอมแฉ ลากไส้เปลี่ยนรางรถไฟแก่งคอย-บัวใหญ่ ใช้รางไม่ได้มาตรฐาน เพราะผลิตจากรง.จีนขนาดเล็ก หวั่นเกิดเหตุโศกนาฎกรรม

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงถึงกรณีที่ข้าราชการบางคน มีเงินในบ้านพักจำนวนมากว่า ตนไม่แปลกใจเลยที่ข้าราชการบางคนมีเงินเป็นร้อยล้าน เนื่องจากการสั่งของของผู้รับเหมาในโครงการต่าง ๆ เป็นช่องทางทำเงินมหาศาล จากการตรวจสอบโครงการเปลี่ยนรางรถไฟระยะที่ 5 ช่วงชุมทางแก่งคอย-บัวใหญ่มูลค่า 8,500 ล้านบาท พบว่ามีการสั่งของคือรางรถไฟจากโรงงานขนาดเล็ก ที่ไม่มีคุณภาพจากประเทศจีน โดยขณะนี้นำมากองไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ทำให้เกรงว่าจะเหมือนโครงการรถและเรือดับเพลิงของกทม. โดยข้อเท็จจริงรางรถไฟของประเทศไทยจะต้องใช้รางชนิดหัวแข็งในกรณีที่เป็นทางโค้ง และรางชนิดบีเอส 100 เอ ในกรณีที่เป็นทางตรง แต่ปรากฏว่าผู้รับเหมาและบริษัทที่ปรึกษาไปเจรจากับโรงงานเพียงลำพังและได้เปลี่ยนสเปคให้ใช้รางชนิดบีเอส 100 เอ เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่าอันตราย แต่ทำให้ราคากลางที่ตั้งไว้ 45,000 บาทต่อตัน เหลือเพียง 15,000 บาท

นายชูวิทย์ กล่าวว่า อยากให้ รฟท.ใช้รางรถไฟที่มีคุณภาพจริงๆ เพราะเป็นความปลอดภัยของประชาชน และเป็นที่น่าสังเกตว่าโรงงานดังกล่าวไม่เคยผลิตรางชนิดนี้มาก่อน
 
ขณะเดียวกันในประเทศจีนได้แจ้งยกเลิกการผลิตรางรถไฟบางประเภทของโรงงานแล้วเนื่องจากมีอุบัติเหตุรถไฟชนกันในประเทศจีนหลายครั้ง อีกทั้งรางรถไฟดังกล่าวไม่ผ่านการตรวจสอบของเติร์ตปาร์ตี้ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบคุณภาพ นอกจากนี้วิศกรของรฟท.ขณะนี้มีเพียง 1 คน ทั้งๆที่มีโครงการจำนวนมาก แต่กลับมีผู้เซ็นอนุมัตเพียงนายจเรคนเดียว ทั้งนี้การเซ็นสัญญาโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีปลัดคมนาคมเป็นประธานบอร์ดรฟท.ด้วย ซึ่งอยากให้มีการจับตาดูว่าต่อไปจะมีโครงการระยะที่ 6 มูลค่า 6,500 ล้านบาท โดยบริษัทซิโนไทยเป็นผู้รับงาน ซึ่งจะเป็นโครงการลักษณะเปลี่ยนรางรถไฟเช่นเดียวกัน.