ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน เครือข่ายชุมชนคนรักเมืองนนท์ จำนวนประมาณ 500 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี เพื่อร่วมหารือรวมถึงหาข้อสรุปกับผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อ.บางบัวทอง บางกรวย บางใหญ่ และไทรน้อย ซึ่งยังคงประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังมาเป็นเวลาหลายเดือน และยังคงไม่ได้รับการแก้ไขช่วยเหลือหรือระบายน้ำที่เริ่มเน่าเสียออกจาก พื้นที่แต่อย่างใดทำให้ชาวนนทบุรีได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งนี้ ปรากฎว่า นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้ส่งรองผู้ว่าฯเข้าร่วมหารือกับชาวนนทบุรีแทนในเรื่องดังกล่าว
นางทศสิริ พูลนวล บก.บห.สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก ในฐานะชาวบ้านนนทบุรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ ถึงการเดินทางมารับฟังข้อหารือในเรื่องดังกล่าวว่า ชาวนนทบุรีที่เข้ามาเจรจากับทางจังหวัดรู้สึกไม่พอใจกับการจัดการแก้ไขปัญหา ดังกล่าวมาก เพราะพวกตนไม่มีทางรู้เลยว่า น้ำจะท่วมไปถึงเมื่อไหร่และจะมีท่าทีลดลงไปเป็นปกติหรือไม่ จากนี้ไป ชาวนนทบุรีจะไม่รอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือจากทางจังหวัดนนทบุรีต่อไป แล้ว เราจะต้องดำเนินการอะไรบางอย่างตามวิธีของพวกเรา ทั้งนี้ เมื่อพูดคุยกับรองผู้ว่าฯนนทบุรี ก็ได้รับคำชี้แจงว่า มีการไปเจรจากับทางกรุงเทพมหานคร ในการเปิดประตูระบายน้ำที่บริเวณคลองมหาสวัสดิ์ ประมาณ 50 ซม. ซึ่งเขาก็รับปากแต่พอพวกเราหันหลังก็กลับปิดประตูระบายน้ำไว้เหมือนเดิม
"ไม่มีอะไรรับรอง ว่าคนนนทบุรีจะต้องอยู่กับน้ำไปนานอีกสักเท่าไหร่ จากนี้เราจะเลือกตามวิธีของเราเอง ซึ่งกำลังเลือกอยู่ว่าจะตัดสินใจรวมตัวเดินทางไปชุมนุมกดดันกันที่ไหน อาจจะเป็นที่บริเวณประตูกั้นคลองมหาสวัสดิ์ หรือรอยต่อระหว่างอ.บางกรวย กับเขตบางพลัด หรืออาจจะเป็นที่ ศปภ.เลยก็ได้" นางทศสิริกล่าว
เมื่อถามว่าตอนนี้น้ำในพื้นที่ ที่ท่วมขังมีแน้วโน้มลดระดับลงบ้างหรือไม่ บก.บห.สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก ในฐานะชาวบ้านนนทบุรี กล่าวว่า น้ำลดช้ามาก ไม่มีใครรับรองกับพวกเราได้ว่า หากกู้ถนนสาย 340 ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ด้วยการนำบิ๊กแบ็กมากั้นและสูบน้ำออก แล้วจะเป็นตัวช่วยชะลอน้ำ หรือประตูด้านใต้ของกทม.จะช่วยเราระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ไม่เพียงแค่ นนทบุรีที่ได้รับผลกระทบ ปทุมธานีก็สาหัสไม่แพ้กัน ซึ่งเรื่องนี้ จริงๆแล้วเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ไม่ดำเนินการบริหารจัดการน้ำให้เร่งไหลระบายอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่น้ำที่ท่วมอยู่ขณะนี้ เป็นน้ำก้อนเดียวกันหมดจากที่ไหลมาจากนครสวรรค์ ลพบุรี อยุธยาอ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯและสมุทรสาครทั้งนั้น
"รัฐบาลไม่เร่งทำ การระบายน้ำให้เป็นแบบแผนเดียวกัน เพระาน้ำมันมาจากก้อนเดียวกัน มีที่มาเดียวกัน แต่กลับไปโยนให้แต่ละจังหวัดบริหารจัดการกันเอง ทุกอย่างต้องมีการวางแผน แต่รัฐบาลกลับเลือกที่จะปิดกั้นน้ำให้อยู่ในบางพื้นที่และปล่อยให้ไหลผ่าน แห้งไปในบางพื้นที่ ไม่ได้ดูเลยว่า มีประชาชนจำนวนเท่าใดบ้างที่ได้รับความเดือดร้อน แต่กลับไม่ได้รับการแก้ปัญหาหรือจัดการให้ถูกต้อง ถือว่ารัฐบาลไม่ได้เรื่อง เราไม่พอใจกับการหารือวันนี้ และเราต้องดำเนินการตามวิธีของเราต่อไป" นางทศสิริ เผย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายชุมชนคนรักเมืองนนท์ จำนวนหลายร้อยคน ได้มีการเดินทางมาสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งก็ได้รับการชี้แจงยืนยันว่า จังหวัดไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่เนื่องจากระดับน้ำในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่ที่ต่ำกว่า เมื่อเกิดเหตุทางจังหวัดก็ได้เตรียมการช่วยเหลือด้านต่างๆอย่างเต็มที่ ซึ่งผู้ว่าฯนนทบุรี ยัง ยืนยันว่าจะทำให้หลายพื้นที่ระดับน้ำลดลงอย่างแน่นอน แต่ไม่ถึงกับแห้งเลยทีเดียว และจะพยายามให้ประชาชนส่วนใหญ่กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมยืนยันว่าวันที่ 1 ธ.ค. ระดับน้ำจะลดลงอย่างแน่นอน