นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน วันที่ 19 พ.ย. ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11
โดยเป็นการโทรศัพท์มาจากบาหลี อินโดนีเซีย ระหว่างการปฏิบัติภารกิจประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 19 โดยนายก กล่าวว่า การประชุมวันเสาร์นี้เป็นการประชุมวันสุดท้ายซึ่งจะเข้าประชุมสำคัญ คือ การประชุมสุดยอดอาเซียนสหประชาชาติ การประชุมสุดยอดอาเซียนอินเดีย และ การประชุมสุดยอดภูมิภาคเอเซียตะวันออก โดยการประชุมจะเป็นปีแรกที่ผู้นำสหรัฐฯได้เดินทางเข้าประชุมด้วย
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้นอกจากจะได้พูดคุยกับผู้นำอาเซียนแล้ว ยังได้คุยกับประเทศคู่เจรจาสำคัญ อย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ก็ได้ย้ำให้เห็นถึงเสถียรภาพทางการเมือง และความเป็นประชาธิปไตยของไทยพร้อมที่จะกลับมามีบทบาทสำคัญในอาเซียน และยังได้ใช้โอกาสนี้ในการเผยแพร่ข้อมูลมาตรการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลดเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาประเทศ
ทั้งนี้ นายกฯยังเผยว่า ไทยยังเสนอให้กลุ่มอาเซียนเพิ่มความร่วมมือ บริหาร จัดการภัยพิบัติ และการบริหารจัดการน้ำ เพราะ ทุกประเทศในภูมิภาคก็ต่างได้รับผลกระทบจากอุกทภัย ในที่ประชุมก็เห็นด้วยกับแถลงการณ์ผู้นำอาเซียน ว่าด้วยการป้องกันอุทกภัยและลดผลกระทบ การบรรเทา ฟื้นฟู และการบูรณะ ซึ่งทุกประเทศก็เห็นด้วยและชื่นชมประเทศไทยในการริเริ่มเรื่องนี้ และได้ออกแถลงการณ์ต่อเนื่องจากพื้นฐานความคิดนี้ อันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดตั้งศูนย์บริหารภัยพิบัติของอาเซียน หรือ ASA Center
นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการดำเนินการเพื่อรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน กลุ่มประเทศอาเซียนต้องเร่งรัดเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคและพัฒนาให้เท่าเทียมกัน
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กรุงเทพชั้นในปลอดภัยแน่นอนแล้ว การดำเนินมาตรการต่างๆ ที่ผ่านมาสำหรับพื้นที่กทม.ชั้นในสามารถตรึงมวลน้ำไว้ได้ที่คลองบางซื่อ ทำให้น้ำไม่เข้าท่วมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปทุมวัน สีลม
กรณีที่กังวลว่าน้ำท่วมบริเวณถนนพระราม 2 จะมีปัญหาไม่สามารถเดินทางลงใต้ได้ ก็คงไม่เกิดขึ้นแล้ว