นายกรัฐมนตรี แจงผลถกอาเซียน ไทยได้ประโยชน์ พร้อมเดินหน้า สร้างถนนไฮเวย์ 4 เลน ท่าเรือทวาย
เจรจารถไฟจีน มั่นใจ กทม. ชั้นใน ปลอดภัย ฝั่งตะวันตก สถานการณ์ดีขึ้น
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินลักษณ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ซึ่งวันนี้ จัดรายการมาจาก ประเทศอินโดนีเซีย โดยระบุว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้มีการหารือร่วมกับผู้นำประเทศต่างๆซึ่งไทยได้ย้ำถึงเสถียรภาพทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยที่จะทำให้ไทยกลับมามีบทบาทในเวทีอาเซียน และไทยได้ให้ข้อมูลแผนฟื้นฟูประเทศจากเหตุน้ำท่วมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นพร้อมเสนอให้อาเซียนเพิ่มเครื่องมือจัดการภัยพิบัติและการจัดการน้ำ
รวมทั้งยังได้แลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับความผันผวนเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาเซียนต้องเร่งสร้างการแข่งขันเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคให้ทัดเทียมเวทีโลก ซึ่งการประชุมครั้งนี้ประเทศไทยได้ประโยชน์หลายเรื่อง อาทิ การเดินหน้าโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายในพม่าเชื่อมการขนส่งสินค้าท่าเรือฝั่งอันดามันกับท่าเรือแหลมฉบัง โครงการแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ที่จะมีการสร้างถนนไฮเวย์ 4 เลนจากกุนหมิงลากตัดผ่านจังหวัดสำคัญ อาทิ อำเภอแม่สอด จ.พิษณุโลก จ.ขอนแก่น ซึ่งจะได้รับประโยชน์
นอกจากนี้ ยังได้หารือกับผู้นำจีน ซึ่งสนใจลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ส่งรายละเอียด MOU ให้จีนแล้วและถ้าจีนตกลง ไทยก็พร้อมเร่งการเจรจาได้ทันที
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวอย่างมั่นใจด้วยว่า ปัญหาน้ำท่วมในประเทศ ได้ทุเลาเบาบางลงแล้ว กทม. ชั้นใน เช่น อนุสาวรีชัยสมรภูมิ , ย่านปทุมวัน , สีลม จะปลอดภัยอย่างแน่นอน ขณะที่ สถานการณ์น้ำ ฝั่ง กทม. ตะวันตก หรือ ฝั่งธนฯ ก็น้ำลดแล้วเช่นกัน หลังจาก กรมชลประทาน ยืนยันว่า สามารถจัดการน้ำกับทุ่งต่าง ๆ เช่น ทุ่งพระพิมล ทุ่งพระยาบันลือ ได้ระบายออกวันละ 63 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปัญหาการรื้อแนวบิ๊กแบ็ก และแนวกั้นจุดต่าง ๆ ทาง ศปภ. และ กทม. ก็ได้ทำการแก้ปัญหา เจรจาในทุกจุดด้วยวิธิการผ่อนปรน ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ลุล่วงไปแล้วในทุกพื้นที่เช่นกัน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เป็นห่วงประชาชนในภาคเหนือ และอีสาน ซึ่งเริ่มเผชิญกับภัยหนาวแล้ว ซึ่งได้สั่งการเตรียมพร้อมหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมรับมือให้การช่วยเหลือ