นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส.ให้สัมภาษณ์รายการเก็บตกจากเนชั่น ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนลถึงกรณีมติ ครม.ให้ออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะได้ผลประโยชน์ด้วยว่า การขอพระราชทานอภัยโทษ สามารถทำได้สองกรณีคือ
1.ทำเฉพาะราย ซึ่งเสื้อแดงก็เคยเข้าชื่อไปแล้ว
และ 2. ในกรณีวาระอันเป็นมงคล ซึ่งตราขึ้นโดยพระราชอำนาจ จะมีการกำหนดกฎเกณฑ์ ซึ่งก็ทำกันมาหลายครั้ง หากถือตามแบบแผนที่มีมาตลอด หากอยากได้ประโยชน์ก็ต้องมาติดคุกซึ่งตนก็คิดว่าเขาได้เตรียมการเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมโรงพักบางเขน หรือการตั้งคนไปเป็นอธิบดีราชทัณฑ์ อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวก็ยังมีด่านสองคือ ความผิดต้องห้ามปล่อยตัวที่แนบท้ายซึ่งเกี่ยวกับเรื่องคอร์รัปชั่นดังนั้นหากจะใช้ช่องทางนี้เขาต้องทั้งมอบตัวก่อนและตราพระราชกฤษฎีกาใหม่
นายแก้วสรรกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปรากฏว่าเกิดน้ำท่วม ซึ่งไม่เป็นไปตามแผน และเขาคงไม่เข้ามาติดคุก พ.ร.ฎ. ที่ออกวานนี้ แสดงว่าเขาตัดสินใจแลกหมัด เพราะเขาตราว่าไม่ต้องติดคุกก็อภัยโทษได้ และดึงความผิดคอร์รัปชั่นออกจาแนบท้าย พ.ร.ฎ. ปัญหาคือข้อแรกคือการที่ไปถวายร่าง พ.ร.ฎ.ว่าหนีคดีและอภัยโทษได้นั้น เป็นการเอาสิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญไปถวายในหลวงเพราะคำพิพากษายังไม่ถูกบังคับ แต่กลับจะทำลายคำพิพากษา เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนหวังว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะแนะนำให้ถูกต้อง
นายแก้วสรรกล่าวต่อว่า การที่เอาคดีคอร์รัปชั่นออกจากบัญชีแนบท้ายและบอกว่าไม่สำคัญ มีค่าเท่ากับคดีหมิ่นประมาท ต้องอธิบายว่าทำไมถึงไม่สำคัญ เรื่องนี้คนได้ประโยชน์มีเพียง พี่ชายนายกฯคนเดียว อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เป็นการตรากฎหมายเฉพาะบุคคลใช่หรือไม่ เป็นการไม่ซื่อสัตย์ต่อส่วนรวมต่อหน้าที่หน้าที่หรือไม่
นายแก้วสรรยังกล่าวถึงขั้นตอนหลังจากนี้ว่า ต้องส่งไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตรวจสอบและแนะนำ ครม. หากถูกต้องก็ผ่านเลย แต่หากไม่ถูก ครม. ก็ยาก อย่างไรก็ตามหากผ่านถึงขั้นถวายราชเลขาธิการ เมื่อถึงขั้นนั้นก็ไม่ควรพูดกันอีก
อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่าจะยับยั้งได้หรือไม่ นายแก้วสรรกล่าวต่อว่า เป็นอำนาจของเขาเราทำได้แต่ท้วงติง ออกแถลงการณ์คัดค้าน แต่หากจะดื้อทำก็ไม่มีใครค้านเขาได้ เหลือสุดท้ายก็ต้องลงโทษคือยื่นถอดถอนจากกรณีฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่นายกฯจะระบุว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพราะไม่เข้าประชุม นายแก้วสรรกล่าวต่อว่า เรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้เรื่อง จะแกล้งหรือเสแสร้งปกปิด ก็ตามสบาย แต่นี่ยิ่งส่อเจตนาไม่สุจริต
ต่อข้อถามที่ว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ นายแก้วสรรระบุว่า ไม่ได้เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีไว้ใช้ตรวจสอบอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่นี่เป็นอำนาจอภัยโทษขององค์ประมุข ฝ่ายบริหารมีหน้าที่เสนอ ถูกผิดไม่มีศาลตรวจสอบได้ ศาลปกครองก็ตรวจสอบไม่ได้ หากเกิดจริงไม่มีใครตรวจสอบ แต่ตัวคนทำเอามาถอดถอนได้
"เขากล้าขนาดนี้เขาไม่แตะเบรกแล้ว ก็ถอดถอนไปเลย ถ้ารัฐบาลยังอยู่เขาก็จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อนิรโทษกรรมทักษิณทั้งหมด เพราะหากเข้ามาได้ก็จะพ้นแต่คดีที่ดินรัชดา แต่การแก้รัฐธรรมนูญจะให้พ้นจากคดีอื่นด้วย" นายแก้วสรรกล่าว