วันที่ 16 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีที่ครม. ชุดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมติออกร่าง พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า โดยหลักของการอภัยโทษจะเป็นการช่วยนักโทษที่สำนึกผิดแล้วเท่านั้น คือ ให้ติดคุกก่อนระยะหนึ่งแล้วใช้กระบวนการอภัยโทษเพื่อปล่อยตัวให้กลับตัว กลับใจ และไม่เคยมีกรณีไหนในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ศาลยุติธรรมได้มีคำพิพากษาให้จำคุกแล้ว ผู้ต้องหาไม่ต้องมาติดคุก ไม่ต้องสำนึกผิด ไม่ต้องได้รับโทษ
นายศิริโชค กล่าวว่า ดังนั้น สังคมไทยต้องจับตาว่า พ.ร.ฎ. ขอพระราชทานอภัยโทษของครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มีการวางเงื่อนไขเพื่อล็อคสเปกให้คุณให้โทษกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ เพราะกระบวนการของการออกพ.ร.ฎ. ขอพระรายทานอภัยโทษครั้งนี้ดูแล้วไม่โปร่งใส เต็มไปด้วยข้อพิรุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมเข้าประชุม ครม. ทั้งที่สามารถเดินทางกลับจาก จ.สิงห์บุรี ให้มาทันการประชุม ครม. แต่กลับไปบันทึกเทปและเข้าประชุมสภาฯ โดยที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยที่จะเข้าร่วมประชุมสภาฯอยู่แล้ว
นายศิริโชค กล่าวต่อว่า ส่วนตัวคิดว่า เหตุที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เข้าประชุม ครม. เพราะรู้ว่าการประชุม ครม.ครั้งนี้จะมีมติเรื่องนี้ ที่ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พี่ชายของตัวเอง หากอยู่ร่วมประชุมด้วยอาจเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ จึงต้องใช้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ คนที่ 2 ให้เป็นประธานในการประชุม ครม.แทน
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กล่าวถึงกระแสข่าวครม.
จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ว่า อยู่ที่นโยบายของรัฐบาลที่จะกำหนดคุณสมบัติของผู้สมควรได้รับอภัยโทษอย่างไร เมื่อถามว่าการทำในช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ต้องดูที่เจตนาว่าทำเพื่อประโยชน์ของใคร หากทำเพื่อบุคคลทั่วไปก็สมควรทำ แต่หากทำเพื่อบุคคลคนเดียวก็ไม่ควร เพราะการออกกฎหมายควรทำเพื่อคนส่วนรวม เมื่อถามว่าอาจมีการกำหนดเงื่อนไขทำเพื่อบุคคลทั่วไป แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจได้รับประโยชน์ด้วย หากทำเพื่อบุคคลทั่วไปแต่ใครจะอยู่ในเงื่อนไขด้วยอันนั้นก็เป็นเรื่องผลพลอยได้ และหากทำแล้วทำให้บ้านเมืองสงบจริงก็ควรทำ แต่ถ้าทำแล้วยังทะเลาะเบาะแว้งกันก็ไม่ควร
“ที่ผ่านมาการออกกฏหมายลักษณะดังกล่าวก็ทำกันมาตลอด ในวโรกาสสำคัญๆ แต่มีปัญหาตรงที่ร่างนี้มีพ.ต.ท.ทักษิณอาจได้ประโยชน์ด้วย เลยถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก เพราะของเดิมที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ กำหนดเงื่อนไขยกเว้นคดีพาเสพติดและคดีทุจริตคอรัปชันด้วย ดังนั้นครม.เมื่อตัดสินใจเอง ก็ต้องรับผิดชอบในปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย” นายเสรีกล่าว
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบว่าครม. มีการออกมติครม.ดังกล่าวจริงหรือไม่
เพราะไม่ได้อยู่ประชุมด้วย เนื่องจากติดประชุมร่วมรัฐสภา เรื่องไทย-กัมพูชา แต่เท่าที่ติดตามข่าวเรื่องการออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษดังกล่าว เห็นว่า เป็นการออกในโอกาสครบรอบ 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งมีการทำเป็นประจำทุกปี ไม่ใช่การลักไก่ออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในช่วงน้ำท่วม และไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะทราบว่า มีผู้ได้รับการพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ 2.6 หมื่นคน แต่ไม่รู้ว่า รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ และขั้นตอนสุดท้ายขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจว่า จะพระราชทานอภัยโทษให้หรือไม่
เมื่อถามว่า ครม.ได้เสนอพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ โดยตัดเงื่อนไขเรื่องคดียาเสพติด และคดีทุจริตคอรัปชั่นทิ้งไป
มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เงื่อนไขทั้งสองข้อเป็นการออกเพิ่มเติมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เติมได้ เราก็มีสิทธิตัดทิ้งได้ คุณเติมฉันไม่ว่า แต่ฉันตัดอย่ามาโวย ทั้งนี้การออกพระราชกฤษฎีกาถือเป็นอำนาจของครม.ที่มีสิทธิทำได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องนำเข้าสภาฯหารือ เหมือนสมัยที่รัฐบาลประชาธิปัตย์เคยออกพระราชกฤษฎีกากู้เงิน 4 แสนล้านบาท เชื่อว่า พระราชกฤษฎีกาอภัยโทษจะไม่จุดชนวนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองให้มีการปลุกม็อบสีต่างๆ ตามมาภายหลัง เพราะเราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 15 ล้านเสียง ซึ่งทุกประเทศต่างเช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น ก็ต้อนรับประเทศไทยที่เข้าสู่ประชาธิปไตย มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
สุรพงษ์ ยันออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่ได้เอื้อทักษิณ-ศิริโชค ซัดไม่โปร่งใส
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง สุรพงษ์ ยันออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่ได้เอื้อทักษิณ-ศิริโชค ซัดไม่โปร่งใส