“อภิสิทธิ์” เรียกร้องนายกรัฐมนตรีนั่งประชุม ครม.สั่งการงานที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ พิจารณามาตรการการฟื้นฟู แนะกระทรวงคมนาคมขอปันงบ 17,000 ล้านซ่อมถนน จากงบกลาง 120,000 ล้าน รับ กทม.ประกาศอพยพพลาดกระทบความเชื่อมั่นผู้ว่าฯ กทม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า
คณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะพิจารณา โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดต่อกฎหมาย และน่าจะเป็นการเปิดทางให้มีการเข้าไปแทรกแซงของฝ่ายการเมือง และส่งผลกระทบต่อการบริหารงานใน ศปภ. ทั้งในเรื่องความโปร่งใสและประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งฝ่ายค้านคงได้ข้อยุติในวันเดียวกันนี้
เมื่อถามว่า หากยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เกรงจะถูกกล่าวหาหรือไม่ เพราะเดิมบอกว่าจะไม่ยื่นญัตติ
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งเราไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของตัวนายกรัฐมนตรี และไม่ได้เกี่ยวกับการไปเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่มีข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นจากการอภิปรายญัตติเกี่ยวกับน้ำท่วมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการหยิบยกเรื่องคำสั่งที่ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย จึงให้วิปฝ่ายค้านเป็นผู้พิจารณา เมื่อถามว่า ความรับผิดชอบอยู่ที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ. แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจไม่ต้องรับผิดชอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะดูการทำงานจากคำสั่งของ ศปภ.
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอ้างติดภารกิจที่ จ.สิงห์บุรี ว่า
ที่จริงการเดินทางจาก จ.สิงห์บุรี มาประชุม ครม.ก็น่าจะทัน อยากให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บริหารสูงสุดนั่งหัวโต๊ะ ครม.โดยเฉพาะในขั้นตอนที่ยังต้องมีการบริหารงานที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ และเรื่องของการที่จะต้องพิจารณามาตรการการฟื้นฟู
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการที่กระทรวงคมนาคมเตรียมของบประมาณ 17,000 ล้านบาท ในการซ่อมถนนและ สนามบินดอนเมือง ว่า
ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกฝ่ายรีบทำงาน แต่งบประมาณที่ขอน่าจะไปแปรญัตติขอจากงบกลางที่ตั้งไว้ 120,000 ล้านบาท ส่วนในเรื่องเส้นทางคมนาคมที่ยังเป็นปัญหาทำให้การกระจายสินค้ามีอุปสรรคนั้น ในวันที่ 16 พ.ย.ตนจะพาคณะไปพบสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่าง ๆ และดูขั้นตอนการฟื้นฟูและการแก้ไขปัญหา ผลกระทบที่เกิดขึ้น และสัปดาห์ต่อไปจะพบกับสภาหอการค้าด้วย เพื่อที่จะนำสิ่งที่ได้หารือมาสะท้อนว่า การแก้ปัญหาต่าง ๆ ตรงจุดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
เมื่อถามว่าการที่ กทม.ประกาศอพยพประชาชนในเขตพญาไท แล้วเกิดความผิดพลาดนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ควรจะเกิดขึ้น คงจะต้องระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะทำให้ประชาชนตกใจ ซึ่งก็คงจะกระทบต่อผู้ว่าฯกทม.ในเรื่องความเชื่อมั่น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นผู้ว่าฯ ก็ได้สั่งแก้ไขทันที.-สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
