“ปู”เปิดใจ“เห็นปชช.ทุกข์ย่อมเสียใจด้วย”

“ยิ่งลักษณ์”เผยระหว่างนั่งรถเมล์เยี่ยมผู้ประสบภัย ยันไม่เคยคิดทิ้งเก้าอี้ ที่ร้องไห้ ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ แต่เป็นอารมณ์ร่วมที่เห็นประชาชนเป็นทุกข์           
              
วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นั่งรถเมล์สีครีม-แดง ซึ่งเป็นรถเฉพาะกิจของ ขสมก.ที่จัดไว้บริการประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จากลานพระบรมรูปทรงม้า ไปยังโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร เพื่อเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จากนั้นก็ได้นั่งรถเมล์คันเดิม กลับมายังรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาฯ โดยในระหว่างอยู่บนรถเมล์กลับนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวเปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงการรับมือกับเกมการเมืองหลังน้ำลด ว่า “เรื่องเกมการเมืองนั้นไม่รู้ แต่ยิ่งลักษณ์เข้ามาไม่ได้เล่นเกมการเมือง มาเพื่อแสดงความจริงใจและหวังว่าประเทศไทยจะมีความจริงใจ” เมื่อถามว่าแสดงว่าพร้อมสู้ไม่ว่าจะมีอะไรตามมาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันไม่ใช่เป็นการสู้ในเกมการเมือง เพราะสิ่งที่เราทำขณะนี้คือการทำงานให้ประชาชน อีกทั้งภัยธรรมชาติเป็นเรื่องยากแต่เราต้องแก้ เหตุการณ์น้ำท่วมเกิดมานาน 3-4 เดือน รัฐบาลนี้เข้ามาก็เจอแจ๊กพอตพอดี
               
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับคำพูดที่ว่าหลังน้ำลดจะมีหลายฝ่ายออกมาเช็คบิลรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า
 
เชื่อว่าคนแต่ละพื้นที่รู้ว่ารัฐบาลทำงานอย่างไร คงจะเข้าใจ เราทำงานให้กับประชาชนทุกคน ไม่เลือกพื้นที่ ไม่แบ่งภาค ไม่แบ่งสี เราจะพิสูจน์การทำหน้าที่ของเราด้วยความอดทน  ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญพรรคประชาธิปัตย์ กลางเวทีประชุมสภาฯเพื่อให้มาร่วมกันทำงานและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยินดีอยู่แล้ว วันนี้เราไม่มีทิฐิซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะอย่างไรเราจะทำงานให้ประชาชน ในกทม.ก็ไม่เคยเลือกเขต  แต่เรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำ แม้มีอำนาจอยู่ในมือเราก็ไม่สามารถเอามือไปเปิด-ปิดประตูน้ำเองได้ เราต้องทำงานร่วมกันหลายๆฝ่าย และแม้ตนจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ใช่ว่าจะรู้เรื่องน้ำได้ดีทุกอย่าง แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้ทำงานเพียงลำพังคนเดียว มีคนช่วย ไม่เช่นนั้นคงแก้ไม่ได้มาถึงขนาดนี้
               
“วันนี้ทำไมเราไม่มาช่วยกันสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติว่าเราทำและแก้ปัญหาได้ เรากำลังฝ่าวิกฤติภัยธรรมชาติ ดังนั้นวันนี้ถ้าเราไม่ช่วยกันทำและแก้ปัญหาสุดท้ายประเทศชาติจะแย่ ต่างชาติก็จะไม่เชื่อมั่น ดังนั้นการที่เราต้องเข้าไปช่วยฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดานิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบในตอนนี้ วงจรเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นที่จะย้อนกลับมาสู่ประเทศไทยนั้นมีมูลค่ามากมายมหาศาล เหมือนนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่ไม่ได้ใช้เงินมากมายอะไร เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้รับกลับคืนมา”น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
               
เมื่อถามว่าคิดว่าหลังจากนี้ไปจะต้องร้องไห้อีกสักกี่ครั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า

ไม่ได้ร้องเพราะความอ่อนแอ ถ้าตนอ่อนแอ คงไม่มานั่งหรือยืนอยู่ตรงนี้ คงถอดใจไปนานแล้ว ประชาชนให้ความหวังและเลือกเรามา แล้วมาเจอปัญหาแค่นี้แล้วถอดใจก็คงไม่ใช่ ชาวบ้านด่าตายแน่  แต่ที่ร้องเพราะเป็นอารมณ์ร่วมเมื่อเห็นประชาชนเป็นทุกข์ ก็ทนไม่ได้ ใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ เมื่อถามว่าจริงหรือไม่ว่านายกฯถอดใจถึงขั้นที่จะลาออกแล้วหลายครั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่จริง ตนเข้ามาเพราะประชาชนเลือกมาจะถอดใจได้อย่างไร วันนี้เราต้องพิสูจน์กันตามระบอบประชาธิปไตย ประชาชนเลือกมาจะให้มาถอดใจกันง่ายๆได้อย่างไร แต่ก็ยอมรับว่าตนก็เป็นปุถุชนคนธรรมดา เจอปัญหาแบบนี้ก็ต้องมีกันบ้างในเรื่องของความรู้สึก แต่ยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะถอดใจ