“อภิสิทธิ์” เผย ปชป.ยอมเว้นวรรคศึกซักฟอก เปิดทางรัฐมุ่งแก้ปัญหาน้ำท่วม

ประชาธิปัตย์ 8 พ.ย.- “อภิสิทธิ์” เผยพรรคประชาธิปัตย์ยอมเว้นวรรคอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดทางรัฐบาลมุ่งแก้น้ำท่วม เตรียมถกร่าง พ.ร.บ.งบปี 55 ข้องใจรัฐบาลตั้งงบช่วยน้ำท่วม ไร้รายละเอียด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อหารือถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า
 
ฝ่ายค้านยินดีให้ความเห็น และได้มีการเตรียมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ตั้งแต่เรื่องการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ ต่างประเทศ และน้ำท่วม ซึ่งจะกระทบกับการจัดเก็บรายได้ และการกำหนดงบประมาณ ยังเป็นไปในลักษณะค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ควรจะมีการทบทวนหลายสิ่งหลายอย่าง 

“ที่สำคัญคือยอดงบประมาณที่ดูแลน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท ที่มีการวางโครงสร้างบริหารไม่ผ่านการตรวจสอบในสภาฯ ทำให้ฝ่ายค้านยังมีความกังวลเรื่องความโปร่งใส การจัดลำดับความสำคัญของโครงการ รวมถึงกฎระเบียบ เพราะการใช้งบกลางจะไม่เหมือนกับการที่มีงบประมาณสำหรับหน่วยงานที่มีผู้รับผิดชอบตามปกติ ทั้งงบประมาณผูกพันและเรื่องอื่น ๆ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะมีการเสนอในขั้นกรรมาธิการว่า ควรที่จะมีการทอนงบดังกล่าวออกมา เพราะในช่วงของกรรมาธิการฯ

น่าจะมีรายละเอียดที่รัฐบาลสามารถให้กับสภาฯ ได้ว่า จะแบ่งงบประมาณอย่างไร ส่วนไหนคือเงินชดเชย เยียวยา ที่จ่ายให้กับประชาชนตามหลักเกณฑ์ อาทิ เงินช่วยเหลือ 5,000 บาท เงินช่วยเหลือเกษตรกร  ส่วนไหนเป็นเงินโครงสร้างพื้นฐาน เพราะการเสนอโครงการว่า จะไปซ่อมถนน ซ่อมโรงเรียน ซ่อมโรงพยาบาล หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ ควรมีการตรวจสอบมากกว่าที่จะบอกว่า ยกเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี

“การยกเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี คงน่าเป็นห่วง เพราะเรากำลังพูดถึงเงินที่ต้องใช้ในระยะเวลาเพียง 7-8 เดือนเท่านั้น งบกลางปกติก็เพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ล้านบาท การจัดทำงบประมาณครั้งนี้ ถือว่าแตกต่างกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจน เพราะที่ผ่านมารายการงบกลางของพรรคประชาธิปัตย์ คือการใช้จ่ายสำรองฉุกเฉิน ซึ่งมีที่มาโดยตลอด แต่ 120,000 ล้านบาทของรัฐบาลชุดนี้ เหมือนตั้งลอย ๆ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นของบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมนั้น
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะสภาฯ คงจะมีการปิดสมัยประชุม ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงไม่มีการยื่นอภิปราย อีกทั้ง ทุกคนต้องช่วยกันผ่านสถานการณ์น้ำท่วมให้ได้ก่อน และว่า “ผมไม่ได้มองว่า พรรคจะเสียโอกาสในการที่จะตรวจสอบรัฐบาล เพราะคิดว่าเราต้องเอาปัญหาเป็นตัวตั้ง และสถานการณ์เช่นนี้ ผมคิดว่าการทำให้การเมืองมีปัญหา เป็นการไม่เหมาะสม”.-สำนักข่าวไทย