นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนรู้สึกหดหู่ หมดหวังและหาอนาคตไม่เจอกับความไร้ประสิทธิภาพ ของรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์
โดยเฉพาะภาวะผู้นำของน.ส.ยิ่งลักษณ์เองในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่นอกจากจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมให้ดีขึ้น กลับทำให้หลายเขตในกทม.และหลายจังหวัด ยังจมอยู่ใต้น้ำลึกเฉลี่ย 40 ซม. - 1.5 เมตรทำให้ประชาชนเดือดร้อนอยู่ในภาวะเครียดและเศร้าซึมหลายล้านคน เป็นผลให้ไม่สามารถควบคุมดูแลการทำลายคันกั้นน้ำในหลายจุด เช่น คันกั้นน้ำบริเวณคลองสามวา
ล่าสุดยังปล่อยให้ประชาชนเข้าไปรื้อคันกั้นน้ำคลองประปากว่า 10 จุด บริเวณตั้งแต่ถนนแจ้งวัฒนะไปถึงถนนสรงประภาทั้ง ๆ ที่คดีรื้อคันกั้นน้ำเก่าแถว ๆ บริเวณเดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจแม้รู้ตัวและมีพยานบุคคลที่ชี้ตัวชัดเจนถึงนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง การปลุกปลั่นยุยงพี่น้องประชาชนให้ไปทำลายคันดิน ก็ได้แต่เงียบกริบปล่อยให้เรื่องเงียบไปตามสายลมหรือว่าคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศจะหวังระบบการควบคุมและบังคับใช้กฎหมายในบ้านเมืองนี้ไม่ได้แล้ว
พรรคเพื่อไทยพยายามดึงดันอย่างที่สุด ในการต้องโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ออกให้พ้นทางหลายคนไม่ว่าจะเป็นพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) และนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.) ทำให้เครือญาติของท่านผู้นำสมอารมณ์หมายได้เป็นผบ.ตร.สมใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีสิทธิ์แก้ตัวและปัดความรับผิดชอบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และการควบคุมบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ทำลายคันกั้นน้ำหลายจุด ในที่สุดถ้าเป็นผลน้ำไหลทะลักเข้ามาท่วมพื้นที่กทม.มากไปกว่านี้รวมถึงถ้าไม่สามารถป้องกันนิคมอุตสาหกรรมบางชันและอีกหลายจุดเอาไว้ได้จนต้องสูญเสียเพิ่มเติมอีกหลายแสนล้านบาทลำพังคำขอโทษกับพี่น้องประชาชนถึงความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลและไร้ซึ่งภาวะผู้นำของน.ส.ยิ่งลักษณ์คงไม่พอ