โฆษกปชป.แฉ “ครม.ปู” เมินเสียงเตือนกรมชลฯ สั่งลดการระบายน้ำในเขื่อนรักษานาข้าว ไม่สนพายุเข้า
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันนี้ ( 3 พ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปริมาณน้ำในเขื่อนในลักษณะโยนความผิดให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ว่า เป็นการโกหกคำโตของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกเสมอให้มุ่งช่วยเหลือประชาชนงดเว้นการตอบโต้ทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่าประชาธิปัตย์เป็นที่พึ่งได้
ทั้งนี้การดำเนินการของนายกฯ จะใช้คุณสมบัติ 5 ข้อคือ
1.ไม่กล้าพูดความจริงกับประชาชน จนสถานการณ์บานปลายเกิดความเสียหายมหาศาลแทนที่จะแก้ปัญหา
2.โยนความผิดให้คนอื่น โดยเฉพาะข้าราชการ เช่น ผู้ว่าฯปทุมธานี และกรมชลประทาน ตกเป็นเหยื่อของรัฐบาล
3.ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจผ่านเครือข่ายคนเสื้อแดง วิจารณ์ทหาร ฝ่ายค้าน เสนอข่าวลือที่ไม่เป็นจริงทำสังคมสับสนให้ประชาชนหลงประเด็น
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า 4.ไม่กล้าตัดสินใจในการใช้อำนาจบริหารราชการ โดยเฉพาะการจัดการพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง รัฐบาลไม่เคยไปดูแลและไม่พูดชัดเจนถึงการชดเชย ทำให้เกิดเหตุการณ์ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐที่คลองสามวามและคลองประปา 17 จุด ถ้าน้ำประปาใช้ไม่ได้ นายกฯต้องแสดงวามรับผิดชอบ เพราะอำนาจอยู่ในมือแต่กลับปล่อยให้ทุกอย่างบานปลาย
และ 5. มีอำนาจแต่ใช้อำนาจไม่เป็น เช่น การตั้งกรรมการดูแลเปิดปิดประตูคลองสามวา เป็นเรื่องน่าแปลกในวิธีบริหาร ที่นายกฯเป็นคนสร้างปัญหาโดยไม่รู้ผลกระทบแต่ทำตามใจฐานเสียง จากนั้นตั้งกรรมการเป็นแพะรับบาปจากสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนก่อ ทำให้ไม่มีใครกล้าแนะนำนายกฯและถ้ามีคนเสนอให้นายกฯลาออก นายกฯจะเชื่อหรือไม่
ทั้งนี้บ้านเมืองคงไม่วิกฤตเท่านี้ ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่มีคุณสมบัติ 5 ข้อ คือไม่พูดความจริง โยนความผิดให้คนอื่น เบี่ยงเบนความสนใจ ไม่กล้าตัดสินใจ และใช้อำนาจไม่เป็น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ตนขอจับโกหกนายกรัฐมนตรีกรณีกล่าวหาว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กักน้ำในเขื่อนจนเต็มทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ โดยจากกราฟตัวเลขปริมาณน้ำในเขื่อนแสดงให้เห็นว่าน้ำในเขื่อนมีปริมาณสูงขึ้นในช่วงการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ แต่กลับไม่ระบายน้ำอย่างที่ควรจะทำ และจากคำให้สัมภาษณ์ของนายธีระวงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ ในวันที่ 5 ก.ย. มีคำสั่งให้ชะลอการระบายน้ำในเขื่อนภูมิพล โดยนายธีระ ระบุว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทานประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตลดการระบายน้ำ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล รวมถึงหน่วงน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาไม่ให้ไหลผ่านเกิน 2,390 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที เพื่อให้ชาวนาในพื้นที่เขตลุ่มเจ้าพระยาเก็บเกี่ยวข้าวได้เสร็จในช่วงนี้ เนื่องจากการคาดการณ์สภาพอากาศที่จะเกิดฝนตกหนักลงมาอีกในระยะนี้ประกอบกับ 1-2 วันที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ดังกล่าว
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการส่งสัญญาณเตือนจากทั้งกรมชลประทานและกรมอุตุนิยมวิทยาว่ากำลังจะมีพายุเข้าถึง 5 ลูก
แต่ไม่ใส่ใจรับมือกับสถานการณ์ เพื่อป้องกันเหตุน้ำท่วม ในวันที่ 15 ก.ย. นายกฯยังทิ้งประชาชนที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยไปเยือนกัมพูชาเยี่ยมสมเด็จฮุนเซนและยังต่อด้วยการทัวร์อาเซียนกระทั่งสถานการณ์น้ำในเขื่อนวิกฤตแล้ว จึงเรียกประชุมคณะกรรมการน้ำเป็นครั้งแรกในวันที่ 6 ต.ค. และมีคำสั่งให้ระบายน้ำในเขื่อน จนทำให้น้ำท่วมไปค่อนประเทศ.