โฆษก ปชป.แนะ “ยิ่งลักษณ์” ตั้งสติ

โฆษก ปชป.แนะ “ยิ่งลักษณ์” ตั้งสติ

 โฆษก ปชป.แนะ “ยิ่งลักษณ์” ตั้งสติ เสนอ 5 ข้อฝ่าวิกฤติ ก่อนกลายเป็นรัฐบาลล้มเหลว ย้ำต้องใช้กฎหมายพิเศษในการบริหารสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งสติ เพื่อเป็นหลักในการนำประชาชนฝ่าวิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ไปให้ได้ เพราะถ้าคนเป็นผู้นำประเทศยังไม่สามารถระงับอารมณ์ตัวเอง จนแสดงอาการกราดเกรี้ยวผ่านสื่อมวลชน ย่อมกระทบต่อขวัญกำลังใจของประชาชนที่กำลังทุกข์ยากจนเกิดความท้อแท้หมดหวัง

นายชวนนท์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นอยู่กับการแก้ปัญหาให้กับประชาชนใน 5 เรื่องสำคัญ
 
คือ 1.ขอให้มีความเอกภาพในการประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน 2.ต้องยอมรับความจริงว่า ขณะนี้ไม่มีพื้นที่ไหนในกรุงเทพมหานครปลอดภัย 100% จึงต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องไปอยู่ในต่างจังหวัดชั่วคราว ดีกว่าเสี่ยงอยู่ในกรุงเทพมหานคร เพราะหากเส้นทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ ถูกตัดขาดจนเมืองหลวงกลายเป็นอัมพาต แม้แต่รัฐบาลก็จะไม่สามารถดูแลประชาชนได้ เช่น ประชาชนที่อยู่ที่ดอนเมืองขาดแคลนทั้งน้ำ อาหาร ไฟฟ้าและน้ำประปา โดยเฉพาะอาหารสำหรับเด็กอ่อน รัฐบาลต้องเข้าไปแก้ไข

นายชวนนท์ กล่าวว่า 3.ต้องเร่งแก้ปัญหาสินค้าจำเป็นขาดแคลนให้ตรงจุด ไม่ใช่สินค้าขาด แล้วใช้วิธีนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการผลิต

แต่เป็นปัญหาการกระจายสินค้า และการกักตุนสินค้า นอกจากนี้ การนำสินค้าราคาถูกไปวางขายที่ตลาด อตก.ของกระทรวงพาณิชย์ ก็ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง เนื่องจากคนที่จมน้ำไม่สามารถเดินทางมาซื้อไข่ไก่ราคาถูกที่ อตก.ได้ แนวทางของกระทรวงพาณิชย์จึงเป็นเพียงการสร้างภาพว่าได้แก้ปัญหา รมว.พาณิชย์ ต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่ปัดสวะให้พ้นตัว เป็นการบริหารเหมือนไม่ได้บริหาร

นายชวนนท์ กล่าวว่า 4.รัฐบาลต้องแบ่งพื้นที่รับผิดชอบอย่างละเอียด ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น ให้เป็นผู้บริการประชาชนในจุดที่เจ้าหน้าที่รัฐอาจเข้าไม่ถึง

เพราะหากยังไม่มีระบบการบริหารที่ดี การขาดแคลนอาหารของประชาชนที่ประสบอุทกภัย อาจกลายเป็นการจลาจลกลางเมืองได้ในเวลาไม่ช้านี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องคนสู้กับน้ำ แต่เป็นเรื่องระหว่างคนกับคนแล้ว และ 5.รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ใกล้กับประตูระบายน้ำ หรือพนังกั้นน้ำ เพื่อชี้แจงถึงการบริหาร เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และกำหนดให้ชัดเจนถึงมาตรการเยียวยาประชาชนในพื้นที่ที่อาจต้องเสียสละรับน้ำ ไม่เช่นนั้น ปัญหาความขัดแย้งแบบที่คลองสามวาจะเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นตามมา จนรัฐบาลอาจอยู่ในสภาพมีอำนาจ แต่บริหารไม่ได้ กลายเป็นรัฐล้มเหลวที่ประชาชนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการบริหารประเทศ

“พรรคยังยืนยันว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อบริหารบ้านเมืองในภาวะไม่ปกติ นอกจากนี้ การแก้ปัญหามวลชนคลองสามวา โดยให้เปิดประตูระบายน้ำ 100 เซนติเมตร โดยไม่มีการแจ้งเตือนประชาชนปลายน้ำ รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมจะเกิดผลกระทบตามมา ถือเป็นการบริหารงานที่ล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง หากทำเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีรัฐบาล และรัฐบาลไม่ควรบริหารแบบลอยตัว เพราะกลายเป็นว่าน้ำคือผู้บริหารแผ่นดินในขณะนี้ไปแล้ว” นายชวนนท์ กล่าว. - สำนักข่าวไทย 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์