นอกจากนั้น แม้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุน้ำท่วม แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยกล่าวโทษผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อบกพร่องดังกล่าว
ดังนั้น แม้มีคนพยายามจุดชนวนการเมืองขึ้นท่วมกลางวิกฤต แต่ดูเหมือนว่าประชาชนไม่ใส่ใจต่อเสียงตำหนิ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำการบ้านอย่างหนัก แม้ว่าสาเหตุของน้ำที่ท่วมจะไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
หากแต่การดำเนินการต่อไป คือ ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู และป้องกัน ถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลชุดนี้
ในพื้นที่ที่น้ำท่วมและขัง รัฐบาลมีวิธีการขนส่งข้าวของเครื่องใช้และการเดินทาง สนับสนุนให้แก่ "ผู้ติดเกาะ" อยู่ได้อย่างทั่วถึงอย่างไร
การรับสถานการณ์เพื่อมิให้เครียด ระงับการระบาดของโรค การลำเลียงเสบียงสู่ผู้ประสบภัย ฯลฯ ต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องหาวิธีทำให้น้ำลดเร็วที่สุด ส่วนเมืองที่น้ำลดแล้ว เช่น กำแพงเพชร ตาก และนครสวรรค์
รัฐบาลจะเยียวยา และฟื้นฟู ให้คืนสภาพเดิมได้รวดเร็วเพียงใด
ขณะนี้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจมีมติให้รัฐบาลระงับการดำเนินตามนโยบายประชานิยมที่เคยหาเสียงเอาไว้ก่อนหน้า เพื่อนำเงิน 70,000 ล้านบาท ไปใช้ฟื้นฟูประเทศ
เพราะมีการประเมินกันว่า สภาวะน้ำท่วมประเทศไทย จะบั่นทอนให้จีดีพีของประเทศลดต่ำลงมาถึงระดับ 2.6 โดยจีดีพีไตรมาสสุดท้ายจะติดลบ
"การบ้าน" ข้อใหญ่ที่รอรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่
"การบ้าน" ข้อนี้เป็นโอกาสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่จะได้แสดงฝีมือบริหาร เพราะประชาชนต้องการคนดีมีฝีมือมาช่วยฟื้นฟูประเทศ
"การบ้าน" ข้อนี้เป็นโอกาสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พิสูจน์ภาวะผู้นำว่าสามารถฟื้นฟูประเทศชาติให้กลับคืนสู่ความปกติสุขได้หรือไม่
และดูเหมือนว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังพยายามทำ "การบ้าน" ข้อใหญ่ให้ผ่านพ้นไปได้
สังเกตจากการเปิดใจรับฟังหนทางจากประชาชนที่เข้าไปมีส่วนร่วมแนะนำ เช่น การปรับปรุงทีมงานโฆษกศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือ ศปภ. หรือการรับข้อเสนอจากภาคเอกชนที่จะเจาะถนนเพื่อชักน้ำที่เอ่อท่วมกรุงออกไปทางทิศตะวันออก เพื่อสูบน้ำลงแม่น้ำบางปะกงและลงทะเลต่อไป เป็นต้น
หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สามารถคลุมพื้นที่และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทั่วถึง
หากสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยทำให้น้ำลดลงได้เร็ว
หากสามารถเยียวยาผู้ประสบภัยได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
หากสามารถเร่งนโยบายบริหารจัดการน้ำ จนป้องกันมิให้เกิดปัญหาซ้ำเดิมเช่นปีนี้ได้
เท่ากับว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำงานมีประสิทธิภาพในระดับสอบผ่าน
เช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่สอบผ่านในวิชาการบริหารงานประเทศ ในฐานะนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น ภาวะน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของฝ่ายรัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการแสดงฝีมือที่แก้ไขปัญหา และฟื้นฟูเมือง
แต่หากฝ่ายรัฐบาลทำไม่ได้ ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
โอกาสนี้จะลอยไปอยู่ในมือของพรรคฝ่ายค้าน....แล้ว สำเนียงเสียงโจมตีที่เคยแผ่วเบา จะกลับดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง
แม้ภาวะน้ำท่วมเป็นภาวะแห่งการบริหาร แต่ก็เป็นช่วงเวลาช่วงชิงโอกาสทางการเมืองเช่นกัน
....ภาวะน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของฝ่ายรัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการแสดงฝีมือที่แก้ไขปัญหา และฟื้นฟูเมือง แต่หากฝ่ายรัฐบาลทำไม่ได้ ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป โอกาสนี้จะลอยไปอยู่ในมือของพรรคฝ่ายค้าน...
มติชนรายวัน ฉบับวันที่30ต.ค.2554 หน้า 3