นายกมล บันไดเพชร ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย
กล่าวถึงข้อมูลเกี่ยวกับกรณีพิพาทการบุกรุกที่ดินป่าเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า ที่ดินผืนดังกล่าวคณะรัฐมนตรีมีมติให้เป็นพื้นที่ป่าสงวน พร้อมกับกำหนดให้เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำเขตอนุรักษ์ ไม่อนุญาตให้สร้างสิ่งปลูกสร้างหรือที่พักอาศัย
ดังนั้น การที่นายกฯสร้างบ้านพักถือเป็นการบุกรุกและผิดกฎหมาย จากข้อมูลพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นชื่อของ พ.อ.หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยานายกฯ โดยได้รับมอบเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2545 จาก พ.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ ในราคา 50,000 บาท จากที่นายกฯชี้แจงว่าได้ถือสิทธิ์ในที่ดินผืนดังกล่าวในปี 2533 พร้อมกันนี้ถ้อยคำที่ระบุในใบคำร้องเสียภาษีที่ว่า ขอรับรองว่ามิได้บุกรุกป่าสงวน และรับรองว่าข้อความทั้งหมดเป็นความจริงทุกประการ จึงถือว่าเป็นการให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน
เรื่องดังกล่าวกรมป่าไม้ใช้เวลาตรวจสอบพอสมควรแล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน อีกทั้งยังมีผู้พยายามปกป้องและแก้ต่างให้ตลอดเวลา จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือ คตส. เข้ามาดำเนินการตรวจสอบโดยด่วน
คตส.หวั่นเป็นเครื่องมือการเมือง
นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยเรียกร้องให้ คตส.เข้าไปตรวจสอบที่ดินเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ว่า คตส.มีวาระการทำงานเพียง 1 ปี เรื่องที่รับไว้พิจารณาในขณะนี้มีจำนวนมาก และเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเป็นเงินหลายพันล้านบาท และไม่ได้ดำเนินการเฉพาะบุคคล ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องที่ดินเขายายเที่ยง
หากมีการเสนอมาก็ต้องดูที่เงื่อนไขและโอกาส และต้องดูว่าจะทำให้โครงการที่ คตส.รับมาตรวจสอบอยู่เดิมสะดุดหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจะยิ่งกลายเป็นผลเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เป็นประเด็นทางการเมือง คตส.จะต้องยิ่งระวัง ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร ดังนั้น ควรจะให้หน่วยงานอื่น เช่น ตำรวจ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปดำเนินการ